ผิวหย่อนคล้อยคืออะไร?
ผิวหย่อนคล้อย คือ สภาวะที่ผิวหนังสูญเสียความยืดหยุ่นจนทำให้เกิดริ้วรอยและร่องลึก และทำให้ใบหน้าของเราดูแก่กว่าวัย สาเหตุหลักมาจากการสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวเต่งตึง โดยเฉพาะในบริเวณใบหน้า คอ และส่วนที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ
สาเหตุของผิวหย่อนคล้อย
ผิวหย่อนคล้อย สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย จากอายุที่เพิ่มมากขึ้น การไม่ปกป้องผิวจากสงแดดของดวงอาทิตย์ หรือการทำหน้าบึ้งหรือยิ้มบ่อย ๆ ก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยที่คอและใบหน้าขึ้นได้ และยังรวมถึงการสูบบุหรี่ที่เป็นตัวการทำร้ายผิวให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ปัญหาผิวหน้าที่พบบ่อย
- ริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น มักเกิดขึ้นเมื่อผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่นและความกระชับ การผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในร่างกายจะลดลงตามอายุ จนทำให้ผิวเริ่มขาดความยืดหยุ่นและกระชับ ผิวหนังจึงเกิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นตามมา
- รอยสิวและรอยดำจากสิว เป็นปัญหาผิวที่มักเกิดขึ้นหลังจากที่สิวหายไปแล้ว แต่ยังคงทิ้งรอยแผลหรือจุดด่างดำที่ทำให้ผิวไม่เรียบเนียน
- ผิวที่ดูหมองคล้ำและไม่กระจ่างใส เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วบริเวณผิวที่ใบหน้าหรือร่างกาย ซึ่งทำให้ผิวดูไม่สดใสและหมองคล้ำได้
9 วิธียกกระชับหน้า ให้หน้าเต่งตึง แบบธรรมชาติ
1. นวดหน้าเป็นประจำ
การนวดหน้าเบาๆเป็นประจำ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ช่วยให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับขึ้น การนวดหน้าควรทำอย่างเบามือเพื่อไม่ให้ผิวหน้าเกิดการยืดหยุ่นมากเกินไป
2. ทาครีมกันแดดทุกวัน
การทาครีมกันแดดเป็นประจำ เพื่อป้องกันแสงแดดที่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและผิวหย่อนคล้อยได้ โดยควรใช้ครีมกันแดด ที่มี SPF30 ขึ้นไปและ และเลือกครีมกันแดดที่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และแสงสีฟ้าได้
3. การทาครีมบำรุงผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น
การเลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมสามารถช่วยให้ทำผิวดูอ่อนเยาว์และลดการเกิดริ้วรอยได้ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมสำคัญ อย่างคอลลาเจน ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ไฮยาลูรอนิกที่ช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น และควรทาครีมอย่างสม่ำเสมอทุกเช้าและก่อนนอนจะช่วยบำรุงได้ดีขึ้น
4. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกายอย่างน้อยวันละ 8-9 แก้ว จะช่วยทำให้ผิวหนังคงความชุ่มชื้นและยืดหยุ่น และช่วยทำให้ผิวหน้าดูเต็มและกระชับขึ้น
5. นอนหลับให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอจะช่วยทำให้ร่างกายมีเวลาฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหายไป และ การนอนหลับจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและทำให้ผิวหน้าดูสดใสและเต่งตึงขึ้นได้
6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและทำให้ผิวพรรณดูสดชื่น กระชับ และมีสุขภาพดี นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดการสะสมไขมันในบริเวณใบหน้า ซึ่งทำให้กรอบหน้าดูคมชัดขึ้น
7. การมาส์กหน้า
การมาส์กหน้าที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ อย่างมาส์กที่มีวิตามิน C หรือสารสกัดจากชาเขียวก็สามารถช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและช่วยให้ผิวกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
8. การบริหารกล้ามเนื้อหน้า (Facial Exercises)
การทำท่าบริหารกล้ามเนื้อหน้าจะช่วยกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อบนใบหน้า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อย่งการทำท่ายิ้มกว้างหรือการยืดปากไปข้างหน้า สามารถช่วยให้กล้ามเนื้อใบหน้ากระชับและลดการหย่อนคล้อย
9. หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ
การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่รุนแรงต่อผิว สามารถทำให้ผิวเสื่อมสภาพและหย่อนคล้อยได้ การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
แนะนำผลิตภัณฑ์ดูแลผิวให้เต่งตึง
Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum
Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum เซรั่มต่อต้านริ้วรอยที่จัดการ 10 สัญญาณแห่งวัย ด้วยนวัตกรรม Age Clock Technology ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร พร้อมด้วยสาร Epicelline® ที่เป็นสารทรงพลังใหม่ล่าสุดในการต่อต้านความร่วงโรยแห่งวัย ที่ค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Eucerin หลังจากการวิจัยเกี่ยวกับ Epigenetics อย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ทั้งริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ และผิวที่ดูแห้งไม่ชุ่มชื้น เสริมประสิทธิภาพด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว และสาร Glycine Saponin ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตไฮยาลูรอนิก คอลลาเจน และเพิ่มอีลาสตินของผิวหนัง พร้อมด้วยสาร Enoxolone ที่ช่วยลดการเสื่อมสลายของกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงภายใน 4 สัปดาห์
คำถามที่พบบ่อย (2)
-
หากใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต้องใช้ระยะเวลาเท่าที่จะเห็นผลลัพธ์
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวจะเห็นผลลัพธ์ภายในประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละบุคคล และผลลัพธ์อาจชัดเจนขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน
-
ความถี่ในการทำทรีตเมนต์ด้วยตัวเอง
การทำทรีตเมนต์ด้วยตัวเองควรทำอย่างสม่ำเสมอประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทของทรีตเมนต์และสภาพผิวของแต่ละบุคคล