วิธีดูแลผิวในแต่ละช่วงอายุวัย บำรุงผิวหนังอย่างถูกวิธี

ผิวคืออวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายของเรา ในแต่ละช่วงวัยตลอดชีวิตของเราตั้งแต่แรกเกิด ผิวเกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ มากมาย จากผิวอ่อนบางในวัยทารก ผ่านวัยรุ่น จนถึงวัยที่เริ่มมีอายุ ผิวเริ่มมีริ้วรอยและหย่อนคล้อย ในแต่ละช่วงอายุ ผิวของเรามีความต้องการที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวจึงต้องตอบสนองความต้องการของผิวในช่วงเวลานั้นๆ ด้วย ทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ปกป้อง บำรุง และซ่อมแซมผิว เพื่อช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีและสวยงามไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม

1. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

เพราะว่าน้ำเป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย การดื่มน้ำให้เพียงพอจะทำให้ระบบต่างๆของร่างกายทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงระบบรักษาและฟื้นฟูเซลล์ผิว และน้ำยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวของเราด้ว

 

2. รับประทานอาหารให้ครบถ้วน

การรับประทานอาหารก็เป็นสิ่งนึงที่จำเป็น เพราะร่างกายของคนเราต้องการสารอาหารเข้าไปบำรุงรักษาส่วนต่างๆของร่างกาย เราจึงควรเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วนเพื่อที่ร่างกายจะได้นำสารอาหารมาฟื้นฟูส่วนต่างๆรวมถึงเซลล์ผิวของเราด้วย

 

3. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับก็เช่นกัน การจะมีผิวที่ดีนั้นย่อมหมายถึงร่างกายต้องมีเวลาในการฟื้นฟูซ่อมแซมเซลล์ผิว และเวลาในการฟื้นฟูเซลล์ผิวของเราจะเป็นช่วงที่เรานอนหลับ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้นอนหลับให้ได้ถึง 8 ชั่วโมงต่อวันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการฟื้นฟู

 

4. ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำ ช่วยในการไหลเวียนของเลือดและส่งผ่านสารอาหาร ออกซิเจนไปยังเซลล์ผิวได้อย่างทั่วถึงและนอกจากจะได้เรื่องผิวดีแล้ว เรายังได้เรื่องสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกายโดยรวมที่แข็งแรงขึ้นอีกด้วย

วิธีดูแลผิววัยทารก

ผิวของเด็กทารกนั้นมีความบางและอ่อนโยนมากกว่าผิวผู้ใหญ่ จึงตอบสนองต่อสิ่งระคายเคืองภายนอกเร็วกว่าและต้องการการปกป้องที่เหนือกว่า

ถึงแม้ว่าผิวของเด็กทารกจะมีจำนวนชั้นผิวเท่ากับผิวผู้ใหญ่ แต่แต่ละชั้นผิวของเด็กนั้นมีความบางกว่าผิวเรามาก โดยเฉลี่ยแล้วผิวเด็กทารกมีความหนาเพียงแค่ 1 ใน 5 ของผิวผู้ใหญ่เท่านั้น ผิวชั้นนอกสุดของเด็กทารกมีความบางเป็นพิเศษและเซลล์ผิวเรียงตัวกันไม่แน่นเท่าผิวผู้ใหญ่ ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันของเด็กทารกก็ยังทำงานไม่ได้เต็มที่ จึงทำให้ฟิล์มบางๆ ที่ผิวเราผลิตขึ้นเพื่อเป็นเกราะปกป้องผิวและรักษาระดับความเป็นกรดของผิวให้สมดุลก็ยังคงอ่อนแอมาก
ฉะนั้น การทำงานของผิวเด็กทารกจึงจำกัดกว่าผิวผู้ใหญ่มากในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น

• ผิวทารกไวต่อสารเคมีและสารประเภทอื่นๆ มาก เมื่อสารเหล่านี้โดนผิวก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่ผิวชั้นใน
• ผิวทารกแห้งง่ายกว่า
• ผิวทารกไวต่อรังสียูวีในแสงแดดมากกว่า

เนื่องจากผิวเด็กทารกยังไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ดีนัก ฉะนั้นผู้ใหญ่ควรระวังในการดูแลให้อุณหภูมิรอบข้างมีความเหมาะสมสำหรับผิวทารก

วิธีดูแลผิววัยเด็ก

พอเริ่มเข้าวัยประมาณ 4 ขวบ ผิวของเรา (รวมถึงขน เล็บ และต่อมต่างๆ ใต้ผิวหนัง) เริ่มโตขึ้น แต่อย่างไรก็ตามผิวของเด็กก็ยังคงบางกว่าผิวผู้ใหญ่และมีจำนวนเม็ดสีน้อยกว่า และเนื่องจากเกราะป้องกันผิวตามธรรมชาติยังไม่พัฒนาเต็มที่ ผิวเด็กจึงยังคงไวต่อแดดและรังสียูวี จนเมื่ออายุประมาณ 12 ปี ผิวจึงพัฒนาอย่างเต็มที่และทำงานได้ในระดับเดียวกันกับผิวผู้ใหญ่

บำรุงผิวเด็กและทารก

วิธีดูแลผิวของเด็กและทารก ส่วนมากจะเป็นการดูแลผิวที่บอบบางไม่ให้แห้ง เพราะว่าผิวแห้งจะเป็นสาเหตุของอาการคันและอาการแพ้ต่างๆ จนอาจจะมีผดผื่นขึ้นได้ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว OMEGA ของ Eucerin ที่มีส่วนผสมสำคัญคือ โอเมก้า ออยล์ และ ลิโคชาลโคน เอ ที่มีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูความชุ่มชื้นของผิว และลดอาการเห่อแดงของผื่นได้ด้วย อีกทั้งเป็นสูตรอ่อนโยนที่ไม่มีน้ำหอม สี พาราเบน หรือสารกันเสีย ทำให้ปลอดภัยกับผิวเด็กและผิวทารกที่บอบบางระคายเคืองง่าย

วิธีดูแลผิววัยรุ่น

การเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนของช่วงวัยหนุ่มสาวมักมีผลกระทบอย่างมากต่อผิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผิวหน้า บริเวณไหล่ หน้าอก และหลัง น้ำมันที่ผลิตเพิ่มขึ้นอาจทำให้วัยรุ่นหลายๆ คนเริ่มมีผิวมันและมีแนวโน้มเป็นสิวได้มากขึ้น แต่ก็มักจะบรรเทาลงเมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้นสำหรับคนส่วนมาก แต่สำหรับบางคนโดยเฉพาะเพศหญิง อาจจะมีสิวไปจนถึงวันผู้ใหญ่ วัยกลางคน หรือหลังจากนั้นเลยทีเดียว

บำรุงผิววัยรุ่น

ผิววัยรุ่นจะเป็นช่วงที่ฮอร์โมนมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ ผิวมีการผลิตน้ำมันมากขึ้นซึ่งอาจเกิดการอุดตันและเป็นสาเหตุของสิวได้ ช่วงนี้จึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลและบำรุงผิวที่สามารถควบคุมความมันและสลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ProAcne ของ Eucerin ที่สามารถใช้ได้ทั้งระหว่างเป็นสิว และหลังเป็นสิว และมีให้เลือกใช้ได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวบอบบาง ผิวแพ้ง่าย หรือผิวมัน

วิธีดูแลผิววัย 20 ปลาย

กรรมพันธุ์ ไลฟ์สไตล์ และสิ่งแวดล้อมจะเป็นตัวกำหนดว่าหนังกำพร้าและหนังแท้ของเราจะเริ่มบางลงเมื่อไหร่ แต่ตามปกติแล้วเริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 25 ปี สัญญาณแรกของผิวที่เริ่มมีอายุจะเริ่มปรากฎเป็นริ้วรอยบางๆ เมื่อผิวของเราเริ่มบางลง ความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสียูวีจะลดลงเรื่อยๆ คอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวก็เช่นกัน เริ่มลดลงเรื่อยๆ ปีละประมาณ 1%

บำรุงผิววัย 20 ปลาย

ช่วงอายุ 20 ปลายอาจต้องบำรุงกันเป็นพิเศษ เพราะสัญญาณของริ้วรอยเริ่มปรากฎ ทั้งความเด้งของคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวก็จะลดลง ผิวหนังก็เริ่มบางลงเรื่อยๆ แนะนำให้ใช้ EUCERIN HYALURON-FILLER FIRST SERUM MOISTURE BOOSTER ที่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นและริ้วรอยแรกเริ่ม ให้ผิวหน้ากลับมาเด้งอีกครั้งด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิด ที่เข้มข้นถึง 3 เท่า สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวแม้ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็ใช้ได้

สำหรับคนที่มีปัญหารูขุมขนกว้างก็สามารถใช้เป็นตัว HYALURON-FILLER ADVANCED AOX ESSENCE ที่มีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขนที่ถูกคิดค้นสำหรับผิวชาวเอเชียโดยเฉพาะ ผสานด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิดและสารแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่นอกจากจะช่วยเติมริ้วรอยแรกเริ่มให้จางลงแล้ว ยังกระชับรูขุมขนให้หน้าเรียบเนียนอีกด้วย

วิธีดูแลผิววัย 30

ในช่วงวัยนี้ เกราะปกป้องผิวยิ่งอ่อนแอลง กระบวนการการทำงานของเซลล์ผิวเริ่มช้าลง ความชุ่มชื้นของผิวลดลง และความยืดหยุ่นของผิวน้อยลง

บำรุงผิววัย 30

สำหรับช่วงอายุ 30 นี้ที่เกราะปกป้องผิวอ่อนแอและกระบวนการฟื้นฟูของเซลล์ผิวเริ่มช้าลง ความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิวก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ HYALURON [3X] FILLER ที่มีสารหลักสำคัญอย่าง ไฮยาลูโรนิค แอซิด ที่ช่วยเติมริ้วรอยที่เกิดและยกกระชับใบหน้าให้กลับมาตึง เรียบเนียน อีกทั้งยังช่วยเติมความชุ่มชื้นคืนกลับสู้ผิวของเราอีกด้วย โดยเราสามารถเลือกใช้ผลัตภัณฑ์ในหมวดนี้ตัวไหนก็ได้ที่เหมาะกับผิวหน้าของเรา

วิธีดูแลผิววัย 40 ถึง 50 ปลายๆ

ในช่วงสองทศวรรษนี้ โครงสร้างของผิวค่อยๆ เปลี่ยนไป

ชั้นหนังกำพร้า:
การเรียงตัวอย่างมีระเบียบของชั้นหนังกำพร้าหายไป เซลล์ใหม่เกิดขึ้นน้อยลงในขณะที่เซลล์เดิมก็เริ่มหดตัว ผิวชั้นบนเริ่มบางลง ซึ่งจะทำให้ผิวกร้านและแห้งมากขึ้น เริ่มมีจุดด่างดำในผิว ผิวฟื้นตัวช้าและมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้น

ชั้นหนังแท้ :
เนื้อเยื่อผิวในชั้นหนังแท้สูญเสียโครงสร้างและความสามารถในการกักเก็บน้ำ ผิวสูญเสียความแข็งแรงและความยืดหยุ่นทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น การพัฒนาของเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงผิวในชั้นหนังแท้เริ่มลดลง เมื่อไม่สามารถลำเลียงสารอาหารจากชั้นหนังแท้ไปสู่ชั้นหนังกำพร้าได้ดีเหมือนเคย จุดเชื่อมต่อระหว่างผิวหนังทั้งสองชั้นจึงเริ่มบางขึ้น ทำให้เกิดการสูญเสียความหนาแน่นของชั้นผิวและความเต่งตึงของผิวในช่วงวัยหมดประจำเดือน การไหลเวียนของโลหิตที่น้อยลงยังทำให้ผิวดูไม่กระจ่างใส ดูหมองคล้ำและในบางกรณีอาจมองเห็นเส้นเลือดฝอยที่แตกได้

ชั้นไขมัน เนื้อเยื่อไขมันเริ่มลดลง เกิดการสูญเสียวอลุ่มของชั้นผิวและความหนาแน่นของผิว ผิวอ่อนแอและดีดตัวกลับมาช้าเมื่อกดลงไป

ในช่วงวัยนี้ ความสามารถของผิวในการผลิตไขมันลดลงทำให้ผิวแห้ง ขาดน้ำ และเกิดริ้วรอยเพิ่มเติม การสร้างผิวใหม่ลดลง ส่วนผิวเดิมก็มีความบางมาก ขาดความฟูและความหนาแน่นในชั้นผิว ความไวต่อแดดเพิ่มขึ้นและมักเกิดจุดด่างดำได้ง่าย

จากวัย 70 ปลายๆ ขึ้นไป ระบบภูมิคุ้มกันในผิวลดลงทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น

บำรุงผิววัย 40 ขึ้นไป

วิธีดูแลผิวสำหรับวัย 40 ขึ้นไปจะเป็นวัยที่ผิวหนังแต่ละชั้นเริ่มบางลงหรือสูญเสียโครงสร้างของผิว เซลล์ผิวหน้าเริ่มการหดตัวมากขึ้นและเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงผิวก็เสื่อมสภาพลง ทำให้สารอาหารที่จะไปบำรุงผิวไม่เพียงพอ และผิวหนังแต่ละชั้นเริ่มบางขึ้นจนสูญเสียความหนาแน่นและเต่งตึงของผิวไป ช่วงอายุ 40 ขึ้นไป ควรบำรุงดูแลผิวด้วย ผลิตภัณฑ์ HYALURON [HD] RADIANCE-LIFT ที่สามารถดูแลปัญหาริ้วรอยร่องลึกและรอบดวงตาได้เป็นอย่างดี และฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก เติมเต็มหน้าหย่อนคล้อยได้อย่างตรงจุดเพื่อให้หน้าอ่อนเยาว์ขึ้น ด้วยพลังของสารสำคัญอย่างไฮยาลูโรนิค เอซิด ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่สามารถซึมลงสู่ชั้นผิวหนังทุกระดับ และสาร Arctiin ที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ทรงพลัง เสริมการทำงานของคอลลาเจนใ้ต้ผิวหนัง เพื่อฟื้นบำรุงและกระชับผิวของเราให้ดีขึ้น

แต่ละช่วงอายุที่มากขึ้น เซลล์ผิวของเราก็เสื่อมมากเยอะขึ้นเรื่อยๆ การดูแลผิวหน้าจะเป็นอะไรที่ควรทำกันตั้งแต่อายุน้อยๆเพื่อรักษาความแข็งแรงและอิ่มฟูของเซลล์ผิวให้อยู่ได้นานที่สุด ผิวสวยจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

ปัจจัยทั้งภายในและภายนอกส่งผลกระทบต่อการมีอายุของผิว

ปัจจัยภายใน

• การไหลเวียนของโลหิตที่เสื่อมประสิทธิภาพทำให้ไม่สามารถนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงผิวชั้นบนได้ดีเท่าที่ควร ทำให้ผิวดูไม่สดใส
• ต่อมน้ำมันและต่อมเหงื่อที่ทำงานน้อยลงทำให้ชั้นฟิล์มบางๆ ที่ปกป้องผิวหายไป ผิวแห้งและขาดน้ำ
• ร่างกายผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนน้อยลงหลังจากวัยหมดประจำเดือน เมื่อรวมกับการสร้างผิวใหม่ที่น้อยลงมีผลกระทบต่อโครงสร้างผิวหน้าของผู้หญิง นอกจากนั้นแล้วพันธุกรรม เพศ และประเภทของผิว ก็มีส่วนทำให้บางคนอาจเริ่มเห็นริ้วรอยของผิวหนังที่มีอายุก่อนคนอื่นๆ

ปัจจัยภายนอก

แต่ข่าวดีก็คือ กว่า 80% ของการที่ผิวมีอายุเกิดจากปัจจัยภายนอก ซึ่งเราสามารถควบคุมได้:

• ปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม: รังสียูวี การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ และมลภาวะ
• ปัจจัยทางไลฟ์สไตล์: การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ความเครียด และการไม่ดูแลผิวอย่างถูกวิธี

จากการศึกษาวิจัยพบว่าผิวหนังบริเวณที่ไม่โดนแสงแดดสามารถรักษาสีผิว ความยืดหยุ่นและความสามารถในการผลัดเซลล์ผิวได้ดีกว่าผิวที่เจอแสงแดดมากซึ่งมักจะแก่ก่อนวัย นั่นก็หมายความว่าการเจอแสงแดดโดยไม่ได้รับการปกป้องอย่างถูกวิธีเป็นการทำร้ายผิวของเราและทำให้แก่ก่อนวัย

 

การใช้ครีมกันแดดไม่ว่าจะทาหน้าหรือทาตัว เป็นวิธีที่ดีและทำได้ง่ายๆในการปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายของรังสียูวีในแสงแดดได้ แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ Eucerin Sun Protection ที่ปกป้องผิวได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็น UVA/B และแสงสีฟ้า รวมไปถึงแสง HEVIS (High Energy Visible Light) สามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวและช่วงอายุ ปลอดภัยแม้ผิวบอบบางแพ้ง่าย

 

ไม่ว่าจะวัยใด ถ้าอยากผิวสวยก็ต้องควรทำการบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ เพียงแต่เราควรใช้ผลิตภัณฑ์ในการบำรุงผิวให้เหมาะสมสำหรับช่วงอายุต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาและฟื้นฟูผิวได้ตรงจุดและเกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด