3. การเลือกรับประทานอาหาร การรับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซี จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงให้กับผิว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผิวแพ้ง่ายเป็นอย่างมาก อย่าง ผัก ผลไม้ ปลา และอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น ไข่ เนื้อ ถั่วเมล็ดแห้ง เป็นต้น
4. ระมัดระวังการใช้เครื่องสำอาง สำหรับใครที่ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้เครื่องสำอางที่มีสูตรอ่อนโยน ปราศจากส่วนผสมที่อาจระคายเคือง อย่าง น้ำหอม สีสังเคราะห์ และแอลกอฮอล์ เพื่อไม่ให้กระตุ้นให้ผิวเกิดการระคายเคืองมากขึ้น การใช้เครื่องสำอางอย่างระมัดระวังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการแพ้และการระคายเคืองได้เป็นอย่างดี
5. บำรุงผิวด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ สารสกัดจากพืชบางชนิด อย่าง อะโวคาโด แอปเปิ้ล กีวี และ ว่านหางจระเข้ จะมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิว ลดการอักเสบ และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยสามารถเลือกใช้ในรูปแบบครีมหรือเซรั่มบำรุงผิว ซึ่งจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่ายได้
6. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น สำหรับผิวแพ้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสงแดด สารเคมี น้ำมันหอมระเหย และความเครียด เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้มักส่งผลกระทบและทำให้เกิดการระคายเคืองและการแพ้ได้ง่าย การหลีกเลี่ยงหรือลดการสัมผัสจะช่วยลดการกระตุ้นให้ผิวเกิดอาการอักเสบและแพ้ได้
7. เปลี่ยนผ้าปูที่นอน การเปลี่ยนปลอกหมอน และผ้าปูที่นอน จะช่วยลดการระคายเคืองของผิวหน้าขณะนอนหลับ และควรซักล้างด้วยน้ำเปล่าหรือใช้น้ำยาซักผ้าสูตรอ่อนโยนอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง
8. การฝึกสมาธิและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยปรับสมดุลและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย รวมทั้งเพิ่มความสามารถในการซ่อมแซมและป้องกันผิวได้ดีขึ้น
การดูแลผิวหน้าและผิวกายสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบาง ในการป้องกันการแพ้และการระคายเคืองนั้น ต้องเข้าใจถึงสาเหตุและปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เพื่อลดทอนการระคายเคืองที่อาจจะรุนแรงขึ้นได้ ทั้งนี้การปรับพฤติกรรมและการเลือกใช้สกินแคร์เพื่อผิวแพ้ง่าย หรือเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของตัวเองตามที่แนะนำไปนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งหนทางในการฟื้นฟูและบำรุงผิวให้แข็งแรงขึ้นได้อย่างยั่งยืน