สิวผด หรือผดผื่นที่ขึ้นบนผิวหน้า การดูแลสิวผดอย่างถูกวิธีจะช่วยรักษาสิวผด และฟื้นฟูเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้น ลดปัญหาสิวผดขึ้นหน้า ทำให้ใบหน้าเรียบเนียน พร้อมให้คุณเผชิญกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
สิวผด คืออะไร
สิวผด หรือ ผดผื่นเม็ดเล็กๆ ที่ขึ้นบนใบหน้านั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเกิดจากผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายที่ต้องเผชิญกับปัจจัยกระตุ้นทางสภาพแวดล้อม ประกอบกับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอลง จึงทำให้เกิดเป็น สิวผด
สิวผดแตกต่างกับสิวอุดตัน คือ สิวอุดตันเมื่อจับแล้วไม่มีอาการเจ็บ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนที่รู้สึกถึงความเป็นไตใต้ชั้นผิว อาจเป็นได้ทั้งสิวหัวดำ และ สิวหัวขาว
สิวผด เกิดจากอะไร
สิวผด เกิดจากอาการแพ้ของผิวหนัง ไม่ใช่ปัญหาสิวอย่างที่ใครหลายคนเข้าใจ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ ไม่มีหัว จำนวนมากคล้ายผื่น กระจายอยู่ทั่วบริเวณที่เกิด เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกสากๆ ที่ผิวหนัง ไม่เรียบเนียนสม่ำเสมอ สาเหตุของสิวผด ส่วนใหญ่ที่กระตุ้นให้เกิดสิวผดนั้นมาจากปัจจัยภายนอก เช่น
1. สิวผดที่เกิดจากสภาพอากาศ
สภาพอากาศร้อน มีผลกระทบทำให้ต่อมเหงื่อในร่างกายไม่สามารถระบายเหงื่อออกได้ดี จึงทำให้ต่อมเหงื่อเกิดการอุดตัน เกิดเป็นตุ่มเล็กๆ เหมือนเป็นผดขึ้น ในบางคนอาจจะเผชิญกับ ปัญหาสิวผด ขึ้นในช่วงเช้าและอาการเบาลงจนหายไปในช่วงเย็นที่อุณหภูมิลดลง
2. สิวผดที่เกิดจากมลภาวะ ฝุ่นPM 2.5
เชื้อโรค สิ่งสกปรก แบคทีเรีย ที่กระจายตัวอยู่ทั่วไปในอากาศ อาจก่อให้เกิดการอุดตันในรูขุมขนจนถึงขั้นอักเสบและเป็นสิวผดได้
3. สิวผดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
บางพฤติกรรมในชีวิตประจำวันอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด สิวผด ขึ้นได้โดยที่เราไม่ทันได้ระวังตัว เช่น การล้างหน้าบ่อยๆ ทำให้ผิวหน้าเสียสมดุล, การใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าหรือครีมบำรุงผิวที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิว, การใส่หน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลานาน, การแพ้สารเคมีบางประเภท, การใช้มือที่ไม่สะอาดจับและสัมผัสที่ผิวหน้า หรือแม้แต่การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอและความเครียด ล้วนส่งผลกระทบให้เกิดสิวผดขึ้นได้
4. สิวผดที่เกิดจากเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ
เกราะปกป้องผิว (Skin Barrier) ทำหน้าที่ในการปกป้องไม่ให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น และป้องกันไม่ให้ปัจจัยภายนอกเข้ามาทำอันตรายต่อผิวได้ แต่เมื่อเกราะปกป้องผิวอ่อนแอลงจะทำให้ผิวเกิดปัญหา เช่น ผิวแห้ง ผิวแดงคัน เกิดสิวผดเล็กๆ และผิวไวต่อการระคายเคืองได้ง่ายขึ้น
หลายคนที่มี ปัญหาสิวผด ส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่า การรักษาสิวผด สามารถใช้วิธีเดียวกับการรักษาสิวได้ แต่สิวผดจะเน้นเป็นการป้องกันผิวและฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิว ซึ่งเป็น วิธีรักษาสิวผด อย่างยั่งยืนที่สุด
บริเวณที่มักเกิด สิวผด
1. สิวผด ที่หน้าผาก
สิวผดที่หน้าผาก อาจเกิดจากแสงแดด เชื้อโรค หรือคนที่ชอบไว้ผมหน้าม้า ผมปรกใบหน้า เพราะเส้นผมเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีสิ่งสกปรก ฝุ่นต่างๆ ติดอยู่บริเวณไรผม และคราบเหงื่อ ที่อาจไหลลงมาโดนบริเวณหน้าผาก
2. สิวผดที่แก้ม
สิวผดที่แก้ม สามารถเกิดได้หลายสาเหตุ เพราะเป็นบริเวณที่กว้าง เราอาจนำมือที่มีเชื้อโรคไปสัมผัสบริเวณแก้มบ่อย และยิ่งโดนแสงแดดจัดอาจะทำให้สิวผดเห่อแดดขึ้นมาได้ หรือการใส่แมสก์ออกจากบ้านเป็นเวลานาน อาจเกิดการสะสมเชื้อโรค ทำให้สิวผดขึ้นแก้มได้
3. สิวผดที่คาง
สิวผดที่คาง อาจเกิดจากการรักษาความสะอาจไม่เพียงพอ อย่างการทานอาหารและไม่เช็คทำความสะอาด หรือการนำมือของเราที่มีเชื้อโรคไปจับ หรือชอบนำมือไปเท้าบริเวณคาง
4. สิวผดที่หลัง
สิวผดที่หลัง อาจเกิดจากเสื้อผ้าที่ใส่ ผสมกับเหงื่อของตัวเราเอง ที่ไม่ระบายอากาศทำให้บริเวณแผ่นหลังเกิดการเสียดสีบ่อยๆ จนเกิดสิวผดที่หลัง อย่างการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมอื่นๆ
วิธีรักษาสิวผด
การรักษาสิวผด ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสิวผดจะเกิดจากปัจจัยภายนอกที่เป็นตัวกระตุ้น เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลรักษาผิวของเรา ก็จะทำให้สิวผดเล็กลงและหายไปได้อย่างง่ายดาย ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีก
1. การใช้ยา รักษาสิวผด
การใช้ยาทาเพื่อรักษาสิวผด สามารถใช้ยาทาเพื่อรักษาสิวผดได้ แต่ต้องใช้แบบถูกวิธี และควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด โดยการใช้ยารักษาสิวผด ควรใช้ยาที่มีส่วนผสมของ ยาคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) เป็นยาที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อยีสต์ที่เป็นสาเหตุของสิวผด
2. การมาส์กหน้า ด้วยวิธีธรรมชาติ
การมาส์กหน้า จะช่วยลดการระคายเคืองให้กับผิว รักษาสิวผด เพราะสารสกัดจากธรรมชาติ อย่างว่านหางจระเข้ แตงกวา มะเขือเทศ มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินซี วิตามินเอ และมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ โดยจะช่วยยับยั้งแบคทีเรีย และปลอบประโลมผิวให้สดชื่นขึ้น
3. การทำเลเซอร์ รักษาสิวผด
การทำเลเซอร์ รักษาสิวผด เป็นวิธีการรักษาสิวผดที่เห็นผลไว และสามารถแก้ปัญหาสิวผดได้ดี แต่อาจมีผลทำให้ผิวบางลง และผิวหน้าไวต่อแสง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ผิวหนังอย่างใกล้ชิด
4. ปรึกษาแพทย์ผิวหนัง
การปรึกษาแพทย์ผิวหนัง หากสิวผดที่เกิดขึ้นกับมีอาการที่รุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีรักษาที่ถูกต้องของแต่ละบุคคลนั่น
รู้วิธีป้องกัน ก่อนการเกิดสิวผด
รักษาสิวผด ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดูแลรักษาผิวของเรา ก็จะทำให้สิวผดเล็กลงและหายไปได้อย่างง่ายดาย ลดโอกาสกลับมาเป็นซ้ำอีก
1. หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสผิวหน้า
ไม่ควรแกะหรือเกาบริเวณที่สิวผดขึ้น เนื่องจากอาจทำให้สิวผดเกิดการอักเสบที่รุนแรงขึ้น
2. ล้างหน้าอย่างถูกวิธี
การล้างหน้าอย่างถูกวิธีจะช่วยรักษาสิวผด อันดับแรกเราควรใช้คลีนซิ่งเช็ดทำความสะอาดใบหน้าก่อน จากนั้นก็ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยนล้างให้สะอาด เช่น Eucerin 3X TREATMENT GEL TO FOAM CLEANSER เจลล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว ที่ทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจด ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินไปพร้อมๆ กับการลดการเกิดสิว ลดรอยสิว ผิวชุ่มชื้น และยังช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เนื้อโฟมฟองนุ่ม อ่อนโยนต่อผิวสำหรับคนเป็นสิว แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง สุดท้ายใช้ผ้าขนหนูสะอาดมาซับ ๆ น้ำบนหน้าจนแห้งสนิท เพื่อลดโอกาสเกิด สิวผด ที่หน้าผาก แก้ม คาง
3. หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดการแพ้
เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น การใช้ครีมบำรุงผิวหรือยาที่มีส่วนผสมของสารสำคัญ เช่น Retinoic acid, Benzoyel peroxide AHA, BHA เพราะจะทำให้ผิวหน้าแห้งลอก และเกิดการระคายเคืองก็เป็นต้นเหตุให้เกิดสิวผดขึ้นหน้าได้
4. การใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์
ยาทากลุ่มสเตียรอยด์จะเข้าไประงับการเกิดผดผื่นและอาการระค่ายเคืองที่เกิดขึ้น จึงช่วยในการลดสิวผิด รักษาสิวผดได้ แต่ต้องใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์ เพราะ หากใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้ผิวสูญเสียภูมิคุ้มกันส่งผลให้ผิวอ่อนแอมากขึ้นกว่าเดิม หรือที่เรียกกันอย่างแพร่หลายว่า ‘ผิวติดสเตียรอยด์’
5. ซ่อมและสร้างเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรง
รักษาสิวผด ด้วยการทำให้ผิวแข็งแรงเพราะผิวแข็งแรงคือหัวใจของการมีสุขภาพผิวที่ดี สกินแคร์ในการบำรุงผิวจึงควรมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาความชุ่มชื้นและบำรุงเกราะปกป้องผิวได้ เช่น Eucerin UltraSENSITIVE Repair Cream สกินแคร์ที่มีนวัตกรรม Barrier Repair Innovation ช่วยดูแลและฟื้นบำรุงเกราะปกป้องผิวที่อ่อนแอและแพ้ง่ายให้ผิวแข็งแรง โดยมีส่วนผสมของสารสำคัญ ได้แก่
- Symsitive ช่วยลดความรู้สึกไม่สบายระคายผิว
- Licochalcone A ช่วยลดปัญหาผิวระคายไวต่อปัจจัยการทำร้าย หรือผิวอักเสบแดง
- Dexpanthenol ช่วยฟื้นบำรุงโครงสร้างผิวให้แข็งแรง ทำให้เนื้อผิวใหม่ดูสม่ำเสมอ
เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดอาการระคายผิวที่เกิดจากปัญหาผิวแห้ง และจากปัจจัยภายนอกที่ทำร้ายผิว ทั้งอากาศ มลภาวะ ฝุ่น สารเคมี ความเครียด การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ช่วยให้เนื้อผิวแน่นชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียนใสแลดูสุขภาพดี ไม่ไวต่อการระคายเคือง ให้ผิวพร้อมเผชิญกับทุกสภาวะ
6. หลีกเลี่ยงแสงแดด
ใช้ครีมกันแดดทุกครั้งเมื่อออกจากบ้าน โดยเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบา ซึมซาบง่าย และมีค่า SPF 50 PA+++ เพื่อให้ปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำ Eucerin Ultra Protection Glowing UV Serum ผลิตภัณฑ์เซรั่มกันแดด SPF50+ PA++++ ที่มีเนื้อกันแดดเบาบาง พร้อมปกป้องผิวจาก รังสีอัลตราไวโอเลต UVA UVB และ HEVIS Light ด้วย Advanced UV Filter ผสานด้วย DPF Technology เพื่อปกป้องผิวจากฝุ่นมลภาวะ ลดการเกาะติดของฝุ่นมลภาวะขนาดเล็กอย่างฝุ่น PM 2.5 และยังช่วยบูสท์ผิวให้โกลว์ใส ด้วย Niacinamide และ Licorice extract ลดเลือนผิวคล้ำเสีย ให้ผิวกระจ่างใส ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน
สิวผด เป็นปัญหาผิวที่มีสาเหตุและปัจจัยที่เกิดขึ้นได้ตามแต่ละบุคคล จึงควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวตัวเองอยู่เสมอ การดูแลเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงเป็น วิธีรักษาสิวผด ได้ดีที่สุด ทั้งยังช่วยเสริมกำลังให้ผิวเรียบเนียนและความมั่นใจให้กับตัวเองมีความกล้าที่จะเผชิญได้ในทุกสถานการณ์ หรือการรู้วิธีการรักษาสิวผดอย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาผิวหน้าให้กลับมาเนียนใส
คำถามที่พบได้บ่อย เกี่ยวกับ สิวผด
สิวผด มักมีลักษณะอย่างไรแตกต่างกับสิวชนิดอื่นหรือไม่ ?
สิวผด มักมีลักษณะคล้ายผดผื่นเล็กๆ มักขึ้นเป็นตุ่มนูนเล็กๆจำนวนมาก ไม่มีหัว ตุ่มเล็กๆ มีสีแดงอยู่บนผิวหนัง แต่ไม่เกิดการอักเสบ โดยทั่วไปพบบริเวณบนใบหน้า ช่วงแก้ม หน้าผากและหลัง มักไม่รู้สึกเจ็บเมื่อถูกสัมผัส
สิวผด สามารถหายได้ในกี่วัน ?
สิวผดเป็นสิวที่มักพบเจอได้ง่ายและหายได้เร็ว ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนของประเทศไทยอันเป็นสาเหตุหลัก แต่หากป้องกันการเกิดสิวผดได้ถูกวิธี เช่น หลีกเลี่ยงแดดจัด หรือ การสัมผัสใบหน้าโดยไม่จำเป็นจะทำให้สิวผดหายได้เร็วขึ้น
สิวผดเป็นโรคติดต่อหรือไม่ ?
สิวผดไม่ติดต่อและไม่สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนได้
