คลีนซิ่ง คืออะไร และการใช้คลีนซิ่งสำหรับคนเป็นสิว

คลีนซิ่ง คืออะไร รู้ไหมว่าการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยการใช้ คลีนซิ่งล้างหน้าและล้างเครื่องสำอางให้สะอาด คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด เพราะตลอดทั้งวันเราเจอทั้งครีมบำรุงผิว ครีมกันแดด เครื่องสำอาง มลภาวะ จึงต้องมั่นใจว่าคลีนซิ่งที่ใช้สามารถทำความสะอาดผิวและล้างเครื่องสำอางได้สะอาดหมดจดจริงๆ โดยเฉพาะคนคนเป็นสิว หรือมีผิวแพ้ง่าย อาจเกิดความกังวลใจที่จะใช้คลีนซิ่งในการล้างเครื่องสำอาง เพราะกลัวว่าจะเกิดการระคายเคืองจนเกิดอาการแพ้ที่ผิวหน้าได้

คลีนซิ่ง คือ ผลิตภัณฑ์เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า ที่มีหลายรูปแบบ เช่น แบบเนื้อน้ำ แบบเจล แบบออย แบบน้ำนม และแบบโฟม ที่เราจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่ง เพราะว่าการที่เราแค่ล้างหน้าด้วยน้ำธรรมดา ไม่สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้เพียงพอ และอาจทำให้สิ่งสกปรกตกค้างไปอุดตันรูขุมขน

เนื่องจากผิวหน้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน คลีนซิ่ง จึงถูกออกแบบมาให้มีหลากหลายเนื้อสัมผัส เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานและสภาพผิวที่แตกต่างกัน และสำหรับคนเป็นสิว หรือคนที่มีผิวแพ้ง่าย ควรใช้คลีนซิ่งที่เหมาะสมกับผิวของตนเองเป็นพิเศษ เพื่อช่วยปกป้องและฟื้นฟูผิวหน้าดูใส เรียบเนียน สุขภาพดีในทุกวัน

 

1. คลีนซิ่งแบบน้ำ

เหมาะสำหรับสาวผิวมันและผิวผสม มีลักษณะเป็นน้ำใสๆ ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน ถือเป็นคลีนซิ่งยอดนิยมเพราะใช้งานง่าย แค่เทคลีนซิ่งแบบน้ำลงบนสำลี จากนั้นก็เช็ดตามจุดที่ลงเครื่องสำอางบนใบหน้า จนสำลีไม่มีคราบเครื่องสำอางติดอยู่หรือจนผิวสะอาด ข้อดีของคลีนซิ่งแบบน้ำคือไม่ทิ้งความมันไว้บนใบหน้า ใช้ได้แม้ผิวแพ้ง่ายและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนผิวเป็นสิวหรือผิวแพ้ง่าย เพราะช่วยสลายไขมันส่วนเกินบนใบหน้าและเครื่องสำอางตกค้างฝังลึกได้อย่างหมดจด

 

2. คลีนซิ่งออย

เหมาะสำหรับผิวแห้งเป็นพิเศษ มีลักษณะเป็นน้ำผสมกับน้ำมัน สามารถล้างเครื่องสำอางออกได้ง่ายดาย ล้างเครื่องสำอางได้ทุกประเภท รวมทั้งเครื่องสำอางแบบกันน้ำด้วย วิธีใช้คลีนซิ่งชนิดนี้ก็ง่าย แค่เทลงบนฝ่ามือแล้วนวดเบาๆ บนใบหน้า จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด ข้อดีคือสามารถใช้แทนผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดดวงตากับริมฝีปากได้ ข้อเสียคือตัว คลีนซิ่ง อาจทิ้งคราบมันไว้จนเกิดการอุดตันได้ง่าย จึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน

 

3. คลีนซิ่งน้ำนม

เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแห้งถึงผิวธรรมดา คลีนซิ่ง จะมีลักษณะเป็นน้ำสีขาวขุ่นเหมือนน้ำนม ที่ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้หมดจด แถมบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น สลายความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกอย่างล้ำลึก วิธีใช้ก็ง่ายแค่กดคลีนซิ่งน้ำนมลงบนฝ่ามือ แล้วนวดเบาๆ ให้ทั่วใบหน้าจนคราบเครื่องสำอางละลายออกจนหมด จากนั้นจึงค่อยใช้สำลีหรือฟองน้ำชุบน้ำแล้วเช็ดออก ทำซ้ำแบบเดิมจนกว่าจะรู้สึกว่าผิวหน้าสะอาดหมดจดแล้วล้างหน้าตามปกติ ข้อดีคือนอกจากจะเป็นผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางแล้ว ยังช่วยบำรุงผิวไปในตัวด้วย

 

4. คลีนซิ่งชนิดโฟม

เนื้อคลีนซิ่งจะมีลักษณะเป็นโฟม ซึ่งอาจจะไม่ค่อยมีให้เห็นมากนักเนื่องจากเป็นคลีนซิ่งรูปแบบใหม่ ข้อดีคือช่วยลดการใช้สำลีเวลาเช็ดเครื่องสำอาง เป็นคลีนซิ่งที่อ่อนโยนต่อผิวอย่างมาก เพราะเนื้อโฟมที่นุ่มละเอียดช่วยลดการเสียดสีที่ผิวหน้า สามารถนวดและเน้นตามจุดต่างๆ บนใบหน้าและตามซอกมุมได้ดี ทำความสะอาดได้ทั่วถึง ใช้ได้กับทุกสภาพผิว

นอกจากนี้ยังช่วยลดปริมาณการใช้สำลีที่อาจทำให้เกิดการระเคืองบนผิวหน้าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเนื้อสำลีนั้นไม่ละเอียดอ่อน ยิ่งเสี่ยงต่อการระคายเคืองซึ่งอาจทำให้ผิวแห้ง ลอก และผิวแพ้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคลีนซิ่งโฟมนั้นอ่อนโยนและผ่านการรับรองโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแล้ว รวมทั้งมีคุณสมบัติช่วยขจัดความมันส่วนเกิน สิ่งสกปรกและเครื่องสำอางตกค้างอย่างล้ำลึก เพราะมีส่วนผสมของไมเซลล่าร์ ก็ยิ่งไม่ต้องเช็ดหรือล้างซ้ำหลายรอบให้เกิดการระคายผิว และควรประกอบด้วยสารบำรุงผิวเพื่อให้ความชุ่มชื้นในระหว่างการทำความสะอาด เช่น ไฮยาลูรอนที่จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และเสริมเกราะกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวมีสุขภาพดียิ่งขึ้น

นอกจากการใช้ คลีนซิ่ง เช็ดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกบนใบหน้าแล้ว การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าเหมาะกับสภาพผิว ก็สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวได้เร็วขึ้น รวมถึงช่วยรักษา ปกป้อง และฟื้นฟูผิวได้อย่างตรงจุดยิ่งขึ้นอีกด้วย

“สิว” จัดเป็นปัญหากวนใจเรื้อรัง และอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนังในระยะยาว เช่น รอยสิว ไปจนถึงแผลเป็นหลุมสิว

 

สาเหตุของการเกิดสิวมีทั้งหมด 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การอุดตันของเซลล์ผิวหนัง ต่อมไขมันที่ทำงานผิดปกติ เชื้อแบคทีเรีย C.acnes และกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นบริเวณรูขุมขน

 

การรักษาสิวมาตรฐานประกอบไปด้วยการใช้ยาชนิดทา หรือยาชนิดรับประทาน และอาจพิจารณาใช้การรักษาด้วยการทำหัตถการต่าง ๆ เช่น การรักษาด้วยกรดอ่อนผลัดเซลล์ผิว การรักษาด้วยแสงหรือเลเซอร์ร่วมกับการรักษามาตรฐานอีกด้วย

ในความเป็นจริงแล้ว นอกเหนือจากการใช้ยามาตรฐานหรือการทำหัตถการเพื่อรักษาสิวแล้ว การใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเวชสำอางก็ยังมีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมให้คนไข้มีสุขภาพผิวที่แข็งแรงเพียงพอสำหรับการใช้ยารักษาสิว และเมื่อผิวแข็งแรงก็จะทำให้คนไข้สามารถใช้ยารักษาสิวได้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

 

โดยเวชสำอางที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสิวนั้นอาจเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ หรือเป็นสารสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติช่วยออกฤทธิ์ส่งเสริมยามาตรฐาน เช่น มีฤทธิ์ลดปริมาณเชื้อแบคทีเรีย ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ช่วยปลอบประโลมผิวจากการอักเสบ หรือมีสารที่ช่วยลดความมันบริเวณใบหน้า โดยผลิตภัณฑ์เวชสำอางสำหรับคนไข้สิวนั้นมีอยู่หลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์กันแดด ครีมบำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ช่วยลดรอยที่เกิดจากสิว และผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาดบริเวณผิวหนัง

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (cleansing) มีบทบาทสำคัญในการช่วยทำความสะอาด ชำระล้างสิ่งสกปรกและไขมันส่วนเกินบริเวณผิวหนัง โดยการเลือกใช้ cleansing ที่เหมาะสมสำหรับคนไข้สิว ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่า pH เป็นกรดอ่อนหรือเป็นกลาง ปราศจากน้ำหอม ปราศจาก alcohol และสารกันเสีย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองบริเวณผิวหนัง ความรู้สึกหลังใช้ไม่ก่อให้เกิดความแห้งตึงมากจนเกินไป และไม่ก่อให้เกิดสิวเพิ่มเติม ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ผสมเม็ดทำความสะอาด (abrasives) ในคนไข้ที่มีสิวอักเสบ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองบริเวณผิวหนังและกระตุ้นการอักเสบเพิ่มมากขึ้นได้ และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีน้ำมันผสมอยู่ โดยคนไข้สิวอาจทำความสะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมสำหรับคนไข้สิววันละ 1-2 ครั้ง และทำความสะอาดด้วยความอ่อนโยน หลีกเลี่ยงการทำความสะอาดด้วย cleansing บ่อยจนเกินไป และหลีกเลี่ยงการขัดถูบริเวณผิวหนังอย่างรุนแรง เนื่องจากอาจส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิวเพิ่มขึ้นได้

 

ในปัจจุบันผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสำหรับคนไข้สิวอาจมีการใส่ส่วนผสมสำคัญบางอย่างซึ่งช่วยออกฤทธิ์ส่งเสริมประสิทธิภาพของการรักษาสิวให้ดียิ่งขึ้น โดยอาจมีการใส่ยามาตรฐานรักษาสิวบางชนิดเช่น benzoyl peroxide ซึ่งช่วยออกฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย C.acnes และช่วยลดสิวอุดตัน เป็นต้น หรืออาจมีการผสมเวชสำอางบางอย่างซึ่งมีบทบาทส่งเสริมประสิทธิภาพของการรักษาสิวให้ดียิ่งขึ้น เช่นมีการใส่ salicylic acid ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ลดสิวอุดตันและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนังอย่างอ่อนโยน หรือมีการใส่ส่วนผสมจากบิสซาโบลอล (bisabolol) ซึ่งเป็นสารสกัดจาก chamomile มีฤทธิ์ลดการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเสริมฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดสิว และช่วยลดเลือนรอยดำที่เกิดจากสิวได้อีกด้วย

 

ดังนั้นการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอางต่าง ๆ ที่เหมาะสมสำหรับคนไข้สิว โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด (cleansing) ซึ่งมีส่วนผสมสำคัญหลายชนิด ช่วยออกฤทธิ์เพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาสิวให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมให้สุขภาพผิวหนังแข็งแรงมากขึ้น และทำให้สามารถใช้ยารักษาสิวได้อย่างต่อเนื่อง ลดผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยารักษามาตรฐานได้เป็นอย่างดี

 

เพิ่มเติมบทความโดย อ.นพ.ณัฐชาต จุไรรัตนาภรณ์

Instagram: @drnatthachat