ผมเสียบำรุงดูแลอย่างไร ให้กลับมานุ่มสลวย สุขภาพดี

ปัญหาผมเสียพบได้บ่อย โดยเฉพาะคนที่ไว้ผมยาว เนื่องจากปัจจัยทางมลภาวะและการใช้ชีวิตประจำวันอาจทำให้เส้นผมไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร และเส้นผมที่ผ่านการดัด ยืด ย้อม ก็มักจะทำให้เกิดผมเสียได้ง่าย สำหรับใครที่มีอาการเส้นผมแห้ง ไม่มีน้ำหนัก ผมชี้ฟู ผมแตกปลาย ขาดหลุดร่วงง่าย แสดงว่าพบสัญญาณของผมเสีย ควรหลีกเลี่ยงและทำการฟื้นฟูเส้นผมโดยด่วน

สารเคมี

การกัดสีผมและทำสีผม เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเสียได้ง่ายที่สุด รวดเร็วที่สุด เพราะการกัดสีผมเป็นการใช้สารเคมีเข้าไปทำลายเม็ดสีซึ่งเป็นโปรตีนในเส้นผม ทำให้เกิดอาการผมแห้ง ขาดความชุ่มชื้น หยาบกระด้าง และแตกปลาย และเมื่อทำการย้อมสีผมให้เปลี่ยนไป น้ำยาจะเข้าไปทำการเปลี่ยนเม็ดสีลึกถึงแกนผมเพื่อให้ผมเปลี่ยนสี ดังนั้น การทำสีผมนั้น ถือว่าเป็นการทำร้ายเส้นผมที่ค่อนข้างร้ายแรง

 

ความร้อน

การใช้ความร้อนในการตกแต่งทรงผม ก็เป็นอีกสาเหตุในการทำร้ายเส้นผมให้ผมเสียด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการไดร์ผม ม้วนผมหรือหนีบผมเพื่อทำเป็นทรงต่างๆ หรือแม้กระทั่งการสระผมด้วยน้ำร้อนหรือน้ำอุ่ม ซึ่งการใช้ความร้อนที่ผมเป็นประจำย่อมทำให้ผมเกิดความแห้งและกลายเป็นผมเสียตามมา

 

แสงแดด

แสงแดดและมลภาวะต่างๆ มีส่วนในการทำลายโครงสร้างเส้นผม ทำให้ผมแห้งเสีย ขาดหลุดร่วงได้ง่าย จากแสงแดดที่มีรังสี UV และฝุ่นควันในมลภาวะต่างๆ

1. ลองลูบผมของตัวเองดู ว่ามีความนุ่มลื่นหรือไม่ การสัมผัสง่ายๆ แต่สามารถบอกได้ทันที หากรู้สึกว่าผมแห้ง ติดมือ นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของผมเสียแล้ว ต้องรีบดูแลทันที
2. ความยืดหยุ่นของเส้นผม โดนการถอนผมจากโคนออกมาสักหนึ่งเส้นแล้วลองดึงปลายทั้งสองด้านดูว่าผมขาดออกจากกันง่ายหรือไม่ เพื่อตรวจสอบคร่าวๆ ว่า ผมยังคงมีความยืดหยุ่นดีอยู่หรือไม่
3. จับผมเป็นช่อเล็กๆ แล้ว ลองผูกปมง่ายๆ ดู ถ้าผมคลายออกอย่างรวดเร็วก็ถือว่าสุขภาพผมยังแข็งแรงอยู่ แต่ถ้าปมที่ผูกไว้ไม่ว่าจะหลวมแค่ไหนก็ยังเป็นปมอยู่ แสดงว่าผมค่อนข้างเสียและผิวของเส้นผมมีความแห้งสาก

• อย่างที่ทราบกันดีว่าการทำสีผมเป็นการทำร้ายเส้นผมอย่างถึงแก่น ไม่ว่าจะเป็นการกัดสี ย้อมสี ดัดผม ยืดผม การใช้สารเคมีเข้าไปทำร้ายเส้นผมทำร้ายไปถึงโครงสร้างของเส้นผม ดังนั้น ถ้าอยากให้ผมสุขภาพดี เลี่ยงได้จะดีที่สุด
• ความร้อนเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้ผมเสีย โดยเฉพาะการใช้ไดร์เป่าผมลมร้อนซึ่งจะทำให้ผมแห้งเสียได้ง่าย เปลี่ยนจากการใช้ลมร้อนเป็นการใช้ลมเย็นปกติของไดร์เป่าผมจะเป็นการถนอมเส้นผมได้ดีกว่า
• หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผม เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมบ่อยๆ อย่างต่อเนื่องจะเป็นการสะสมสารเคมีไว้ที่ผม เมื่อใช้ต่อเนื่องนานๆ ควรเว้นระยะให้ผมได้ทำการพักตัวบ้าง

1. สระผมด้วยอุณหภูมิน้ำปกติ

เพราะการใช้น้ำที่ร้อนจนเกินไปหรือเย็นจนเกินไปส่งผลต่อสุขภาพของเส้นผมได้ การใช้น้ำอุณหภูมิปกติในการสระผมนั้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสระผมเพื่อทำความสะอาดเส้นผมและหนังศรีษะ

 

2. ใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน

ในการสระผมเพื่อดูแลสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ ควรใช้แชมพูที่อ่อนโยนต่อสุขภาพผิวของหนังศีรษะและเส้นผม โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ควรใช้แชมพู Eucerin DermoCapillaire RE-VITALIZING SHAMPOO THINNING HAIR ที่จะช่วยทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะอย่างอ่อนโยนพร้อมบำรุงเส้นผมให้หนานุ่มขึ้นด้วย และเพื่อผลลัพธ์ในการดูแลผมที่ดีที่สุดควรใช้ร่วมกับ Eucerin DermoCapillaire THINNING HAIR TREATMENT ทรีทเม้นต์ในการบำรุงเส้นผมให้กลับมามีสุขภาพดี ป้องกันการขาดร่วงของเส้นผม ทำให้ผมดูหนาขึ้น 45%

 

3. เป่าผมให้แห้งก่อนนอน

สำหรับผู้ที่สระผมตอนกลางคืนนั้น การเป่าผมให้แห้งก่อนนอนเป็นเรื่องจำเป็นมาก เพราะหากนอนไปพร้อมๆ กับผมที่ยังเปียกชื้นจะก่อให้เกิดปัญหาหนังศีรษะ รังแค เชื้อราและปัญหาผมหลุดร่วงจะตามมาได้

 

4.หวีผมให้ถูกวิธี

การหวีผมที่ถูกวิธีจะช่วยทำให้ผมมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น อย่างการหวีผมให้เริ่มจากช่วงกลางผม และหวีไปทางปลายผมอย่างเบาๆ และควรหวีผมด้วยความแรงปกติเพื่อป้องกันการทำร้ายผม

 

5.หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับผม

การใช้ไดร์ร้อนจัดเป่าผมเป็นเวลานานจะทำให้ผมขาดความชุ่มชื้น เนื่องจากการเข้าไปทำลายโครงสร้างของเส้นใยผมทำให้ทำเสีย แห้งแตก และไม่ความนำไดร์ร้อนเป่าผมเป่าใกล้หนังศีรษะมากเพราะอาจจะเข้าไปทำลายหนังศีรษะและทำให้หนังหัวเสียหายได้

 

การดูแลเส้นผมให้ถูกวิธี ลด ละ เลี่ยง หรือ เลิกพฤติกรรมบางอย่างที่ส่งผลให้ผมเสียนั้น เป็นการเริ่มต้นในการดูแลสุขภาพเส้นผม การรักษาและบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดีนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อเป็นการปกป้องเส้นผมของเรา ให้นุ่ม สลวย สวยสุขภาพดี สร้างความมั่นใจในบุคลิกภาพในการดำเนินชีวิตในทุกวัน