ภูมิแพ้อากาศ เกิดจากอะไร ควรดูแลตัวเองอย่างไรเมื่ออากาศเปลี่ยน

ภูมิแพ้ทางอากาศ ถือเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญในชีวิตประจำวัน มักเกิดขึ้นเมื่อระบบภูมิคุ้มกันของเราตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศที่พบได้ในทุกๆวัน อย่างละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง และเชื้อรา ฝุ่น PM 2.5 เมื่อร่างกายของเรา ได้รับละอองพวกนี้เข้าไปในร่างกาย ร่างกายจึงสร้างสารฮิสตามีนออกมา ซึ่งทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น น้ำมูกไหล จาม คันตา คันจมูก และยังส่งผลต่อสุขภาพผิวอีกด้วย

ภูมิแพ้ทางอากาศ เป็นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ อย่างเช่น ละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง และเชื้อรา PM 2.5 สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจ ทำให้เกิดอาการแพ้ที่หลากหลายขึ้นตามแต่ละบุคคล

• คัดจมูก
• น้ำมูกไหล
• จาม
• คันจมูก คันตา
• ตาแดง น้ำตาไหล
• คอแห้ง ไอ
• หายใจลำบาก
• เหนื่อยล้า
• นอนหลับยาก
• ผื่นขึ้นตามร่างกาย
• ลมพิษ
• ผื่นแพ้

การวินิจฉัยอาการ

1. สอบถามประวัติทางการแพทย์และการตรวจร่างกาย

แพทย์จะสอบถามและพูดคุยเกี่ยวกับอาการต่างๆและประวัติการแพ้เบื้องต้น เพื่อวินิจฉัยและให้คำแนะนำที่เหมาะสมของบุคคลนั้นๆ

2. การทดสอบภูมิแพ้

การทดสอบภูมิแพ้ เป็นการทดสอบผิวหนัง (Patch Test) และการตรวจเลือด (specific IgE) เป็นวิธีการที่ใช้ในการวินิจฉัยอาการแพ้อากาศ และภูมิแพ้ต่างๆ

3. การประเมินสิ่งแวดล้อม

การประเมินสิ่งแวลล้อมต่างๆรอบตัวและระบุแหล่งที่มาของสารก่อภูมิแพ้ในบ้านหรือที่ทำงาน ก็สามารถช่วยให้รู้สาเหตุและป้องกันและจัดการอาการแพ้ได้

พันธุกรรม

การเกิดภูมิแพ้อากาศสามารถถ่ายทอดทางผ่านพันธุกรรมได้ หากมีคนในครอบครัวของเรา อย่างพ่อแม่หรือญาติเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ก็สามารถมีโอกาสในการเป็นภูมิแพ้อากาศสูงขึ้นได้

สิ่งแวดล้อม

การสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้อากาศ อย่างไรฝุ่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ เชื้อรา ฝุ่นละออง PM 2.5 มลพิษต่างก็เป็นตัวกระตุ้นทำให้เกิดภูมิแพ้อากาศ

ระบบภูมิคุ้มกัน

ร่างกายที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มีโอกาสเป็นภูมิแพ้อากาศสูงกว่าคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง

ความรุนแรงของภูมิแพ้อากาศ แบ่งออกเป็น 3 ระดับ

• ระดับเบา อาการไม่รุนแรง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันน้อย
• ระดับปานกลาง อาการค่อนข้างรุนแรง ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันในบางครั้ง
• ระดับรุนแรง อาการรุนแรงมาก ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมากหายใจลำบาก หรือหายใจไม่ออก

หากมีอาการในระดับปานกลางหรือรุนแรง และมีอาการอย่างริมฝีปากเขียว ซีด รู้สึกเหมือนจะหมดสติ หรือมีอาการบวมที่ใบหน้า ลำคอ หรือลิ้น ควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี

1. หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้

การหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดอาการแพ้ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการภูมิแพ้อากาศ อย่างการสวมใส่หน้ากากเวลาออกไปข้างนอก หรือการใช้เครื่องฟอกอากาศขณะอยู่ในห้องเพื่อช่วยกรองฝุ่นละอองต่างๆ

2. การใช้ยารักษาภูมิแพ้อากาศ

การใช้ยารักษาอาการภูมิแพ้อากาศควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งให้รับประทาน อย่างการทาน ยาแก้แพ้ ยาละลายเสมหะ ยาสเตียรอยด์ชนิดทาจมูกเป็นต้น

3. การฉีดวัคซีนภูมิแพ้

การฉีดวัคซีนภูมิแพ้เป็นการรักษาภูมิแพ้อากาศระยะยาว โดยที่แพทย์จะฉีดสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายทีละน้อยๆ เพื่อให้ร่างกายค่อยๆ ปรับตัวต่อสารก่อภูมิแพ้นั้นๆ

4. การใช้น้ำเกลือล้างจมูก

การล้างจมูกให้สะอาดด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ จะเป็นตัวช่วยในการล้างฝุ่นละออง เมือกน้ำมูก และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆในโพรงจมูกให้หลุดออกไป

ภูมิแพ้อากาศเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของใครหลายคน หากเราเข้าใจถึงสาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ก็สามารถช่วยให้เราจัดการกับอาการภูมิแพ้อากาศได้ดีขึ้น และยังช่วยป้องกันการเป็นผื่นแพ้อากาศ ตามร่างกายอีกด้วย แต่หากมีอาการภูมิแพ้อากาศที่รุนแรงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องของแต่ละบุคคล

Eucerin OMEGA BALM LIGHT TEXTURE

ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมสำหรับผิวหนังและไม่ทำลายชั้นผิวที่มีความอ่อนโยนของเด็กอ่อน โดยขอแนะนำ ผลิตภัณฑ์ Eucerin OMEGA BALM LIGHT TEXTURE ครีมบำรุงผิว ที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง แดง และการระคายเคืองที่มีสาเหตุจากผิวแห้ง ช่วยบรรเทาอาการผื่นแพ้ ช่วยเติมความชุ่มชื้นและฟื้นบำรุงชั้นปกป้องผิว ให้มีสุขภาพดีขึ้น สูตรอ่อนโยน ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และสี สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดที่มีผิวบอบบาง