รู้หรือไม่ว่าหลายพฤติกรรมที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ หน้าโทรม ที่เราทำบ่อยๆ จนแทบจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำร้ายผิวหน้าโดยไม่รู้ตัว! ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญกับมลภาวะในแต่ละวัน การพักผ่อนไม่เพียงพอ การไม่ทาครีมบำรุงผิว ฯลฯ หากเราไม่ใส่ใจที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำร้ายสภาพผิวหน้า แน่นอนว่าจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นให้ผิวหน้าโทรม ไม่ไบร์ท หน้าหมองคล้ำเหมือนขาดการบำรุงและดูแก่กว่าวัยได้ มารีเช็กตัวเองกันดูว่ามีพฤติกรรมไหนที่ทำให้หน้าหมองคล้ำ และ 3 วิธี ที่จะมาช่วยดูแลผิวหน้าโทรมหมองคล้ำให้กลับกระจ่างใสขึ้นได้
หน้าหมองคล้ำ ดูโทรม ไม่กระจ่างใสเกิดจากอะไร
สาเหตุทำร้ายผิวที่ทำให้ผิวหน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส มีอะไรบ้าง และจะฟื้นบำรุงผิวให้กลับมากระจ่างใสมีสุขภาพดีได้อย่างไรเราจะพาทุกคนไปหาคำตอบ
1. การนอนดึก
การนอนไม่เป็นเวลา การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อผิวทำให้หน้าหมองคล้ำมากเกินกว่าที่เราคิด เพราะร่างกายจะหลั่ง Melatonin ฮอร์โมนที่ช่วยในการซ่อมแซมและดูแลร่างกายในช่วงเวลาที่เราหลับสนิท โดยเฉพาะหากหลับสนิทได้ในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00 – 02.00 น. ฮอร์โมนจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด แต่หากเรานอนดึก อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลาในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเหล่านั้นทำงาน ก็อาจทำให้ผิวหน้าไม่ได้รับการซ่อมแซมตามที่ควรจะเป็น จนส่งผลให้ผิวหน้าดูไม่สดชื่นสดใส ตาคล้ำหรือผิวหน้าหมองคล้ำโทรมและดูแก่ก่อนวัย
2. ไม่รับประทานผักผลไม้
ผักผลไม้มีวิตามินที่ดีและเป็นประโยชน์ต่อการบำรุงดูแลผิว เช่น วิตามินซีที่ช่วยให้ผิวหมองคล้ำกระจ่างสดใส นอกจากนี้ผลไม้บางชนิดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย ดังนั้นการไม่รับประทานผักและผลไม้จึงทำให้ร่างกายขาดวิตามินที่มีประโยชน์ตามธรรมชาติจนอาจส่งผลต่อสภาพผิวได้
3. ดื่มน้ำน้อย
เป็นที่ทราบกันดีว่าร่างกายประกอบด้วยน้ำมากถึง 3 ใน 4 ส่วน แสดงถึงความสำคัญของน้ำว่าจำเป็นต่อร่างกาย การดื่มน้ำน้อยเกินไปจนทำให้ร่างกายขาดน้ำ เป็นสาเหตุให้เราผิวแห้งกร้าน ผิวเหี่ยวย่น เกิดปัญหาผิวขาดน้ำ ไม่มีความชุ่มชื้น ริมฝีปากแห้งแตกและผิวไม่เด้ง ทำให้ดูหน้าโทรม ผิวหน้าหมองคล้ำหรือแก่ก่อนวัย
4. ความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้หน้าหมองคล้ำได้ ในเวลาที่เราเครียดอาจจะไม่รู้ตัว เพราะร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามากขึ้น ถ้าเราหน้ามันมากขึ้นจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวอักเสบหรือสิวอุดตันขึ้นได้ ทำให้เกิดจุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส
5. ไม่สครับผิวหน้า
การสครับผิวหน้าจะเป็นการผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใสขึ้น เพราะผิวหน้าของเราจะมีเซลล์ผิวเก่า ที่สะสมอยู่การสครับผิวหน้าจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าและยังทำให้ผิวที่หมองดูกระจ่างใสขึ้น การสครับผิวควรขัดผิวอย่างอ่อนโยนและไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป
6. ไม่ทาครีมกันแดด
แสงแดดมีรังสีที่ทำให้ผิวของเราหมองคล้ำ แห้งกร้านและสร้างริ้วรอยที่ทำให้เราดูมีอายุเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัวว่าต้องออกแดดหรือผิวหน้าต้องกระทบกับแสงแดดเมื่อไหร่ เราจำเป็นที่จะต้องทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกครั้ง เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเสีย ใบหน้าหมองคล้ำ ดูโทรม และช่วยลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัยด้วย
7. ไม่ใช้ครีมบำรุง
ผิวหน้าของเราถูกทำร้ายจากฝุ่น มลภาวะที่ต้องเจอ รวมทั้งเผชิญกับเครื่องสำอางที่แต่งแต้มบนผิวหน้าในทุกวัน ดังนั้นหลังจากขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเด็ดขาดก็คือการบำรุงดูแลผิว เพื่อชดเชยสิ่งที่ผิวของเราต้องสูญเสียไปด้วยครีมบำรุงผิว เพื่อรักษาสมดุลให้ผิวชุ่มชื้น กระจ่างใส ไม่ให้ผิวหน้าดูหมองคล้ำแก่กว่าวัย
8.เมื่อเข้าสู่วัยที่มากขึ้น
อายุที่มากขึ้นส่งผลให้คอลลาเจน (Collagen) เริ่มเสื่อมถอยลงไปตามวัย ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของผิวหนัง ที่ช่วยเสริมความเรียบเนียนและความยืดหยุ่นของผิวหนัง แต่เมื่อคอลลาเจนเสื่อมสภาพ ผิวจะบางลงและเสียความยืดหยุ่น ผิวจึงดูหย่อนคล้อยและไม่กระชับเหมือนเดิม จึงเกิดเป็นริ้วรอยทำให้หน้าหมองคล้ำยิ่งขึ้น
8 วิธีแก้หน้าหมองคล้ำ ให้กลับมากระจ่างใส
1. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการ
ควรดื่มน้ำเปล่าอย่างต่ำวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาระบบภายในร่างกาย ซึ่งจะส่งผลดีต่อผิว เพราะน้ำมีส่วนช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายปรับสมดุลได้ดี และยังมีส่วนช่วยเติมเต็มน้ำในผิวได้ด้วย ทำให้ผิวดูเด้ง ชุ่มชื้น กระจ่างใส
2. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
ในระหว่างที่เรานอนหลับช่วงระหว่าง 22.00 – 02.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายหลั่งฮอร์โมน Melatonin ที่สร้างโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นอกจากนี้ยังช่วยผลิตคอลลาเจน กล้ามเนื้อและมวลกระดูก ดังนั้นหากเป็นไปได้ควรนอนหลับให้สนิทในช่วงเวลาดังกล่าว จะช่วยให้ผิวหน้าได้ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่ ทำให้ผิวหน้าดูไบร์ทสดใส
3. สกินแคร์เพื่อผิวใส เปล่งประกาย
การให้ความสำคัญในขั้นตอนการบำรุงและการเลือกใช้ครีมบำรุงอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงสุขภาพดี ผิวกระจ่างใส ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำและช่วยให้เราดูอ่อนวัยอยู่เสมอ
4. การทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยน
การล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำสะอาด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนและปลอดภัย เพราะการล้างหน้าจะช่วยลดสิ่งสกปรกอุดตันในรูขุมขน และช่วยลดความมันบนผิวหน้า และหลีกเลี่ยงการขัดผิวหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหน้าแห้งเสีย
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อย่างผัก ผลไม้ ที่เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่สำคัญสำหรับผิวหน้า หรืออาหารที่มีโปรตีนที่ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อผิวหนังและคอลลาเจน รวมถึงการบริโภคอาหารที่มีไขมันที่ดีเช่น ปลา หรือ น้ำมันมะพร้าว เป็นต้น
6. การฉีดเมโสเทอราปี (Mesotherapy)
การฉีดเมโสเทอราปีหรือเรียกอีกอย่างว่าการฉีดเมโสหน้าใส เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้เข็มเล็กๆ เจาะเข้าสู่ชั้นผิวเพื่อฉีดวิตามิน กรดไฮยาลูโรนิค สารบำรุงผิวอื่น ๆ หรือสารสกัดจากพืชต่างๆ จุดประสงค์หลักของเมโสเทอราปีคือการบำรุงและดูแลผิวหนังในลักษณะต่างๆ เช่น ลดอาการหน้าหมองคล้ำ เติมความชุ่มชื่นให้ผิว ลดเลือนริ้วรอย หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง เป็นต้น
7. การลอกหน้าด้วยเลเซอร์ (Laser Resurfacing)
การลอกหน้าด้วยเลเซอร์ (Laser Resurfacing) เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้แสงเลเซอร์เพื่อลอกผิวหน้าและกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อผิวใหม่ขึ้นมา กระบวนการนี้ทำให้เกิดการย่อตัวของเส้นใยคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงขึ้น ลดริ้วรอย จุดด่างดำ และลดการเกิดหน้าหมองคล้ำ ผิวหน้าจะดูสดใสและมีความเรียบเนียนมากขึ้น
8. มาส์กหน้าหรือพอกหน้า
การพอกหรือมาส์กหน้าเป็นวิธีการดูแลผิวหน้าที่มีประโยชน์ และการมาส์กหน้าช่วยให้ผิวหน้าหมองคล้ำ กลับมาดูสดใส ชุ่มชื่น ลดอาการหน้าหมองคล้ำและอ่อนเยาว์มากขึ้น สามารถทำด้วยสูตรธรรมชาติที่ผสมจากวัตถุดิบที่พร้อมใช้งานในครัวเรือนได้ เช่น น้ำผึ้ง แตงกวา มะเขือเทศ หรือโยเกิร์ต ที่มีส่วนช่วยบำรุงผิวหน้าได้ หรือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวหน้ากระจ่างใสก็ได้เช่นกัน
Step 1 เลือกครีมบำรุงตอนเช้าและเย็น
- Spotless Brightening Day Fluid UVA/UVB SPF30 ครีมบำรุงสำหรับตอนเช้า ทรงพลังด้วยสารไทอามิดอล ลดเลือนปัญหาฝ้าแดด กระ จุดด่างดำได้ลึกถึงต้นตอ และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำอีก พร้อมฟื้นบำรุงให้ผิวเปล่งประกายใน 2 สัปดาห์
- Spotless Brightening Night Fluid ครีมบำรุงสูตรกลางคืน ช่วยฟื้นบำรุงผิวหน้าในช่วงเวลาที่เราพักผ่อน ผสานสารสำคัญช่วยลดปัญหาผิวที่เกิดขึ้นจากมลภาวะต่างๆ ฝ้า กระ จุดด่างดำ ตื่นมาพร้อมผิวใสในตอนเช้า
Step 2 เลือกเซรั่มเร่งฟื้นบำรุงผิว
Eucerin Even Radiance Duo Ampoules เซรั่มแอมพูลจากยูเซอริน 2 Step
- Step ที่ 1 ช่วยจัดการเซลล์ผิวหมองคล้ำสะสมที่ต้นตอ ด้วยพลังไบรท์เทนนิ่ง 3 เท่า Niacinamide, Licorice Extract และ Vit E และเสริมพลังฟื้นฟูด้วย
- Step ที่ 2 ที่ช่วยบูสผิวโกลว์ใส ด้วย 7 สารทรงพลัง
- Illumiscin สารแอนตี้ออกซิแดนส์ทรงพลัง ช่วยลดโอกาสการเกิดจุดด่างดำ
- Niacinamide ลดเลือนความหมองคล้ำ
- Vitamin C ลดจุดดำด่างดำ ช่วยให้ผิวดูสม่ำเสมอ
- Vitamin E เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ผิวดูกระจ่างใส
- Glyceryl Glucoside Hydro Boost เพิ่มการส่งผ่านน้ำในเซลล์ผิว ผิวชุ่มชื้นฉ่ำวาว
- Penthenol ช่วยคงสมดุลสภาพแวดล้อมในเซลล์ผิวให้ผิวชุ่มชื้นยาวนาน
- Zinc PCA ช่วยลดความมัน
Step 3 เสริมเกราะป้องกันผิวจากแสงแดด
Eucerin ULTRA PROTECTION GLOWING UV SERUM SPF50+ PA++++ เนื้อเซรั่มกันแดดแบบเบาบาง พร้อมปกป้องผิวจาก รังสีอัลตราไวโอเลต UVA และ UVB และผสานส่วนผสมสำคัญด้วย DPF Technology เพื่อปกป้องผิว ลดการเกาะติดของฝุ่นมลภาวะขนาดเล็กอย่างฝุ่น PM 2.5 และยังช่วยบูสท์ผิวให้โกลว์ใส ด้วย Niacinamide และ Licorice extract ลดเซลล์ผิวคล้ำเสีย และยังป้องกันรังสีอินฟาเรด หรือแสงสีฟ้าจากจอคอมพิวเตอร์และจอโทรศัพท์มือถือ เหมาะสำหรับใช้ก่อนแต่งหน้า และไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตันอีกด้วย
Tip : เมื่อผิวหน้าของเรากระจ่างใสแล้ว การดูแลผิวกายที่หมองคล้ำก็เป็นสิ่งสำคัญ Eucerin ขอแนะนำครีมบำรุงผิวกาย Eucerin SPOTLESS BRIGHTENING SKIN TONE PERFECTING BODY LOTION ครีมทาผิวกายที่ช่วยลดปัญหาผิวหมองคล้ำ ช่วยให้ผิวกระจ่างใส ไม่ว่าจะจุดด่างดำ สีผิวที่ไม่เท่ากัน ด้วยสารพลังของ Thiamidol ช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น และด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ลดการทำงานของเมลานินได้ลึกถึงต้นตอ ทำให้ช่วยการลดจุดด่างดำบนผิวได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับHyaluronic Acid ที่บางเบา ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวและรักษาความชุ่มชื้นได้ถึง 24 ชั่วโมง เพื่อผิวที่เนียนนุ่ม เสริมพลังด้วย Licochalcone A ป้องกันการระคายเคือและอาการแพ้ต่างๆอีกด้วย เนื้อครีมบางเบา ซึมง่าย สบายผิว
พฤติกรรมที่เราทำซ้ำๆ ทุกวันล้วนส่งผลกระทบทำให้หน้าโทรมผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส สภาพผิวที่ปรากฏออกมาเป็นตัวสะท้อนว่าเราดูแลเอาใจใส่ผิวหน้ามากน้อยแค่ไหน หากสำรวจแล้วพบว่ามีพฤติกรรมทำร้ายผิว ก็ควรรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ผ่านการทดสอบและทดลองทางการแพทย์แล้วว่าปลอดภัย เพื่อฟื้นบำรุงผิวให้สว่าง กระจ่างใส ดูอ่อนกว่าวัยอย่างที่ใจปรารถนา