1.ยาทาภายนอกสำหรับรักษาสิวอักเสบ
ยาทาถือเป็นการรักษาสิวที่ได้รับความนิยมที่สุด เนื่องจากสะดวก และมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายากิน แต่เหมาะสำหรับสิวที่มีความรุนแรงปานกลางถึงมาก โดยแนะนำให้ใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์และเภสัชกรเท่านั้น สารสำคัญที่พบได้ในยาทาสำหรับรักษาสิวอักเสบ ได้แก่
1.1. ยากลุ่ม Benzoyl peroxide
- คุณสมบัติ : ลดการอักเสบ ช่วยผลัดเซลล์ผิวเพื่อลดการอุดตันและฆ่าแบคทีเรีย P.acnes แต่อาจมีอาการข้างเคียง เช่น ผิวแห้งลอกเป็นขุย คัน แสบ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ทายา
- ข้อแนะนำ : ควรใช้ก่อนทำความสะอาดผิวหน้า 5-15 นาที แล้วล้างออก
1.2. ยาทาปฏิชีวนะ หรือ ยาฆ่าเชื้อ (Topical antibiotics)
- คุณสมบัติ : เป็นยาปฏิชีวนะที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ไม่แนะนำให้ใช้รักษาสิวเป็นยาเดี่ยวเพราะแบคทีเรียจะดื้อยาอย่างรวดเร็ว
- ข้อแนะนำ : ในระยะแรกควรใช้ร่วมกับยาทาอื่นๆ และควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์หรือเภสัชกร
1.3. ยาทาเรตินอยด์ (Retinoid อนุพันธ์ของกรดวิตามินเอ)
- คุณสมบัติ : ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวหนัง ลดสิวอุดตันและลดการอักเสบ สามารถใช้ร่วมกับการรักษาสิวทุกระยะ และใช้ทาป้องกันการเกิดสิวอุดตันได้ด้วย
- ข้อแนะนำ : มีผลข้างเคียงทำให้ผิวลอก คัน แดง และทำให้ผิวหน้าบางลง จึงต้องทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกแดดและห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์
2.การใช้ยาทานแก้สิวอักเสบ
ยารับประทานสำหรับรักษาสิวอักเสบ ในกรณีที่เป็นสิวอักเสบปานกลางถึงรุนแรง หรือเมื่อการรักษาเฉพาะที่ไม่ได้ผล และต้องสั่งจ่ายหรือรับประทานตามคำสั่งแพทย์เท่านั้น
2.1 ยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน
ยาปฏิชีวนะแบบรับประทาน เช่น tetracycline, doxycycline และ erythromycin ช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและลดการอักเสบ โดยปกติจะรับประทานเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการดื้อยาปฏิชีวนะ
3. การรักษาสิวอักเสบทางการแพทย์
การรักษาสิวอักเสบทางการแพทย์ จะใช้ในกรณีที่ผู้ที่เป็นสิวไม่ตอบสนองต่อการรักษาอื่นๆหรือการรักษาด้วยวิธีอื่นเกิดผลข้างเคียง
3.1 การลอกผิว
การลอกผิวด้วยสารเคมีโดยใช้สารละลายเคมีกับผิวหนัง ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว การรักษานี้สามารถช่วยเปิดรูขุมขน ลดการอักเสบ และซ่อมแซมฟื้นฟูผิวโดยรวมให้ดีขึ้นหลังจากเซลล์ผิวซ่อมแซมตัวเอง
3.2 การรักษาด้วยแสงหรือเลเซอร์
การบำบัดด้วยแสง (PDT) เป็นการใช้แสงกระตุ้นผิวหนัง ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและลดการอักเสบ PDT สามารถรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่อาจต้องทำการรักษาหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
3.3 การฉีดสิว
การฉีดยารักษาสิวโดยตรงจะช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการรักษา การรักษาด้วยการฉีดสิว ควรทำโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น เนื่องจากต้องคำนวณปริมาณการใช้และต้องฉีดโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น