การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันปัญหาผิวที่เกิดจากรังสี UV ก่อนเลือกครีมกันแดด เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับค่า SPF ซึ่งเป็นค่าที่ช่วยบอกระดับการป้องกันรังสี UVB ที่สามารถทำร้ายผิว ทำให้เกิดอาการแสบร้อนหรือไหม้แดด นอกจากนี้ ยังต้องพิจารณาค่า PA ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการป้องกันรังสี UVA เพื่อให้ได้รับการปกป้องอย่างครบถ้วน
SPF คืออะไร?
ค่า SPF (Sun Protection Factor) เป็นค่าที่ระบุระดับความสามารถของครีมกันแดดในการปกป้องผิวจากรังสี UVB ซึ่งเป็นรังสีที่ทำให้เกิดอาการไหม้แดด เป็นค่าที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์กันแดด
ความแตกต่างระหว่าง SPF และ PA
ความแตกต่างของค่า SPF และ PA คือ ค่า SPF เป็นค่าการป้องกันแสงแดดจากรังสี UVB ซึ่งเป็นตัวการทำให้ผิวไหม้แดด แต่ในส่วนของค่า PA ช่วยในการป้องกันรังสี UVA ซึ่งทำให้เกิดริ้วรอยและจุดด่างดำ การเลือกครีมกันแดดที่มีทั้งค่า SPF และ PA ที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องผิว สามารถดูรายละเอียดของค่า PA เพิ่มเติมได้ที่นี่
ทำไม SPF ในครีมกันแดดถึงสำคัญ?
SPF เป็นค่าที่ระบุระดับของการปกป้องผิวจากรังสี UVB ซึ่งแต่ละค่าจะมีเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ได้ดังต่อไปนี้
- SPF 8 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 87.5%
- SPF 15 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 93.3%
- SPF 20 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 95%
- SPF 30 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 96.7%
- SPF 40 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 97.5%
- SPF 50 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 98%
- SPF 50+ จะดูดซับรังสี UVB ได้ > 98%
วิธีเลือก ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสม
การเลือกครีมกันแดดนอกจากค่า SPF ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้
เลือกให้เหมาะกับสภาพผิว
ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งค่า SPF เป็นเพียงค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB เท่านั้น
- ผิวมัน-ผิวผสม ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็น เนื้อน้ำ,เจล ดรายทัช หรือครีมกันแดดที่มีเครื่องหมายกำกับว่า ปราศจากน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหน้ามันระหว่างวัน
- ผิวธรรมดา สามารถเลือกใช้ครีมกันแดดได้ทุกรูปแบบตามความชอบและชีวิตประจำวัน
- ผิวแห้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีม มีส่วนผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น
- ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้กันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ และ น้ำหอม
ความเข้มข้นของแสงแดด
รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV (Ultraviolet : UV) เป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 200-400 นาโนเมตร แบ่งออกได้ดังนี้
1. รังสี UVB มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 280-320 นาโนเมตร รังสี UVB สามารถส่งผ่านรังสีทะลุผ่านผิวหนังในชั้นสเตรตัม คอร์เนียม (Stratum corneum) และชั้นอีพิเดอมีส (Epidermis) ทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังของเรา คือ เกิดรอยผื่นแดง แสบผิว หรือผิวหนังในชั้นนอกเป็นรอยไหม้ได้ รวมถึงเกิดรอยแดง จุดด่างดำ และฝ้าที่ผิวได้
2. รังสี UVA มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 320-400 นาโนเมตร มีพลังงานต่ำสุดแต่สามารถส่งผ่านรังสีได้ลึกมากกว่า สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนัง หากรับรังสี UVA นี้แม้ในปริมาณน้อยก็สามารถส่งผลกระทบได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ทำให้ผิวเหี่ยวย่น สุขภาพผิวไม่ดีตามมา
3. แสงสีฟ้า (HEVIS) เป็นแสงพลังงานสูงมีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400-500 นาโนเมตร สามารถลงลึกไปใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวเกิดริ้มรอยก่อนวัย ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง
การเลือกครีมกันแดดที่ดีควรเลือกที่สามารถป้องกันแสงแดดทั้งรังสี UVA/UVB และรวมถึงแสงสีฟ้า (HEVIS) ได้ด้วย แสงสีฟ้าคืออะไร เกี่ยวกับผิวเราอย่างไร
สถานที่
การเลือกครีมกันแดดควรคำนึงถึงสถานที่ในการทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้ง หรือในที่ร่ม โดยเฉพาะกลางแจ้ง เวลากลางวันยิ่งต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป หรือหากอยู่ในออฟฟิศที่มีแสงไฟสว่างตลอดทั้งวันสามารถเลือกใช้ครีมกันกันแดดที่มีค่า SPF ระหว่าง 15-30 ได้ หรือเลือกครีมกันแดดทาหน้าแบบง่ายๆโดยดูจากกิจกรรมแต่ละวันของเรา
- หากทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรเลือกค่า SPF 50+ และ PA++++ ขึ้นไป
- หากอยู่ในที่ร่มหรือออฟฟิศ สามารถเลือก SPF 15-30 และ PA++ ขึ้นไป
ควรทาครีมกันแดดอย่างไร?
ทาครีมกันแดดให้สม่ำเสมอทั่วร่างกาย
- ทาก่อนออกแดด 15-30 นาที
- ใช้ในปริมาณที่เหมาะสม (2 ข้อนิ้วสำหรับใบหน้าและลำคอ)
- ทาซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อมีเหงื่อออกหรือโดนน้ำ
ค่า SPF เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เพื่อทราบถึงประสิทธิภาพในการดูแลในการป้องกันแสงแดด ที่สำคัญคือควรใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมกับผิว
แนะนำครีมกันแดด

ปกป้องผิวบอบบางให้สุดขีดด้วย Eucerin Sun ULTRA 100 UV+ ครีมกันแดดที่ช่วยปกป้องผิวหน้า ด้วยค่า SPF 50+, PA++++ ที่ให้การปกป้อง UVA เหนือกว่า 2 เท่า ด้วยฟิลเตอร์ 7 ชนิดที่ปกป้องทั้ง UVA/UVB และแสงสีฟ้าในชีวิตประจำวัน พร้อมฟื้นฟูผิวด้วย Licochalcone A สารต้านอนุมูลอิสระที่ลดอนุมูลอิสระถึง 79% และ Glycyrrhetinic Acid ที่ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับเซลล์ เนื้อบางเบา กันน้ำได้ ใช้ได้แม้หลังทำเลเซอร์ ไม่ก่อสิว ไม่ระคายเคือง ผู้ใช้ 98% ยืนยันเหมาะกับผิวบอบบาง และ 97% ยืนยันช่วยบรรเทาผิวระคายเคือง มั่นใจเต็มที่ทุกครั้งที่ต้องเจอแดด
.jpg)
ครีมกันแดดเนื้อน้ำ สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่เหนอะหนะใช้ได้แม้กิจกรรมกลางแจ้ง แนะนำ Eucerin® Sun Hydro Protect Ultra Light Fluid SPF50+ 50 ML ผลิตภัณฑ์ป้องกันผิวจากแสงแดดสำหรับผิวหน้า ปกป้องผิวจากรังสี UV ทุกมิติ UVA/UVB เนื้อบางเบาเป็นพิเศษเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีเทคโนโลยี Hydro-tech complex ช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกสบายผิวทันทีหลังทา สามารถใช้ได้แม้ผิวที่บอบบาง
.jpg)
ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากฝุ่นและมลภาวะ แนะนำ Eucerin ULTRA PROTECTION GLOWING UV SERUM SPF50+ PA++++ 30 ML ผลิตภัณฑ์เซรั่มป้องกันแสงแดด สำหรับผิวหน้า ปกป้องฝุ่นมลภาวะและรังสี UV พร้อมบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ถูกทำร้ายจากรังสี UVB/A บูสผิวให้โกลว์กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

ครีมกันแดดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวอุดตัน แนะนำ Eucerin Sun Protection SUN DRY TOUCH ACNE OIL CONTROL SPF50+ PA+++ 20ML ผลิตภัณฑ์ กันแดดสำหรับผิวหน้า ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย ไวต่อแดด กันแดดสูตรควบคุมความมันเพื่อผิวเป็นสิวง่าย
นอกจากนี้สามารถเลือกใช้ กันแดดให้เหมาะสมตามแต่ละสภาพผิว เพื่อให้ปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงหรือไม่
การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงยิ่งปกป้องผิวได้ดีและยาวนานมากยิ่งขึ้น แต่สามารถเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมตามกิจกรรมที่ทำได้
ค่า SPF ที่สูงหมายถึงอยู่ได้นานกว่าหรือไม่
ค่า SPF ที่สูง คือค่าที่ระบุความสามารถในการป้องกันความไหม้แดดของผิว
การใช้ครีมกันแดดทุกวันปลอดภัยหรือไม่?
การใช้ครีมกันแดดทุกวันปลอดภัยหากเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวและใช้ในปริมาณที่เพียงพอ
เด็กสามารถใช้ครีมกันแดดได้หรือไม่?
ครีมกันแดดที่ใช้กับเด็ก ควรเป็นครีมกันแดดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ที่ปราศจากสารเคมีต่างๆ และมีค่า SPF 30 ขึ้นไป
ครีมกันแดดที่หมดอายุยังใช้ได้หรือไม่?
ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ เนื่องจากประสิทธิภาพในการกันแดดจะลดลง
สามารถแต่งหน้าหลังจากทากันแดดได้หรือไม่?
สามารถแต่งหน้าหลังทาครีมกันแดดได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารกันแดดหลายประเภท
ครีมกันแดดควรทาซ้ำบ่อยแค่ไหน?
ครีมกันแดดสามารถทาซ้ำได้ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้การป้องกันยูวีเป็นไปอย่างต่อเนื่อง