spf,spfคือ,spfคืออะไร

ค่า SPF ในครีมกันแดดดูอย่างไร ต้องเท่าไหร่ถึงจะดี

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

ก่อนจะเลือกครีมกันแดด ต้องอย่าลืมดูค่า SPF ที่ระบุอยู่บนผลิตภัณฑ์ด้วย ซึ่งค่านี้มีความสำคัญในการวัดประสิทธิภาพการป้องกันรังสี UVB ที่มากับแสงแดด ซึ่งมีส่วนในการทำร้ายผิว ทำให้ผิวไหม้แสบร้อน ครีมกันแดดจึงต้องมีค่าที่บอกถึงความสามารถในการป้องกันแสงแดด คือ ค่า SPF ที่ระบุอยู่บนผลิตภัณฑ์ เช่นเดียวกับค่า PA ที่ระบุระดับในการป้องกันรังสี UVA

SPF คืออะไร?

ค่า SPF หรือ Sun Protection Factor คือ ค่าป้องกันแสงแดด หรือความสามารถในการป้องกันความไหม้แดดของผิว ซึ่งเป็นตัวระบุระดับการปกป้องผิวจากรังสี UVB หรือเวลาที่ผิวทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตได้หลังจากทากันแดดแล้ว โดยจะมีค่าอยู่ที่ 2 ถึง 50 โดยแต่ละค่าสามารถดูซับรังสียูวีได้ดังนี้

 

ความแตกต่างระหว่าง SPF และ PA

ความแตกต่างของค่า SPF และ PA คือ ค่า SPF เป็นค่าการป้องกันแสงแดดจากรังสี UVB แต่ในส่วนของค่า PA จะเป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA โดยจะไล่ระดับไปตั้งแต่ PA+ ถึง PA++++ ที่เป็นค่าการป้องกันแสงแดด สามารถดูรายละเอียดของค่า PA เพิ่มเติมได้ที่นี่

ทำไม SPF ในครีมกันแดดถึงสำคัญ?

SPF เป็นค่าที่ระบุระดับของการปกป้องผิวจากรังสี UVB ซึ่งแต่ละค่าจะมีเปอร์เซ็นต์ความสามารถในการป้องกันรังสี UVB ได้ดังต่อไปนี้

  • SPF 8 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 87.5%
  • SPF 15 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 93.3%
  • SPF 20 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 95%
  • SPF 30 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 96.7%
  • SPF 40 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 97.5%
  • SPF 50 จะดูดซับรังสี UVB ได้ 98%
  • SPF 50+ จะดูดซับรังสี UVB ได้ > 98%

วิธีเลือก ครีมกันแดดที่มีค่า SPF เหมาะสม

การเลือกครีมกันแดดนอกจากค่า SPF ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้

 

ประเภทของผิว

ควรเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ซึ่งค่า SPF เป็นเพียงค่าที่บ่งบอกประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVB เท่านั้น

  • ผิวมัน-ผิวผสม ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่เป็น เนื้อน้ำ,เจล ดรายทัช หรือครีมกันแดดที่มีเครื่องหมายกำกับว่า ปราศจากน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหน้ามันระหว่างวัน
  • ผิวธรรมดา สามารถเลือกใช้ครีมกันแดดได้ทุกรูปแบบตามความชอบและชีวิตประจำวัน
  • ผิวแห้ง ควรใช้ครีมกันแดดที่เป็นเนื้อครีม มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้น
  • ผิวแพ้ง่าย ควรเลือกใช้กันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของสารก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ และ น้ำหอม

 

ความเข้มข้นของแสงแดด

รังสีอัลตราไวโอเลตหรือรังสี UV (Ultraviolet : UV) เป็นรังสีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วง 200-400 นาโนเมตร แบ่งออกได้ดังนี้

1. รังสี UVB มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 280-320 นาโนเมตร รังสี UVB สามารถส่งผ่านรังสีทะลุผ่านผิวหนังในชั้นสเตรตัม คอร์เนียม (Stratum corneum) และชั้นอีพิเดอมีส (Epidermis) ทำให้เกิดผลเสียต่อผิวหนังของเรา คือ เกิดรอยผื่นแดง แสบผิว หรือผิวหนังในชั้นนอกเป็นรอยไหม้ได้ รวมถึงเกิดรอยแดง จุดด่างดำ และฝ้าที่ผิวได้

 

2. รังสี UVA มีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 320-400 นาโนเมตร มีพลังงานต่ำสุดแต่สามารถส่งผ่านรังสีได้ลึกมากกว่า สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อโครงสร้างชั้นผิวหนัง หากรับรังสี UVA นี้แม้ในปริมาณน้อยก็สามารถส่งผลกระทบได้ถึงชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) ทำให้ผิวเหี่ยวย่น สุขภาพผิวไม่ดีตามมา

 

3. แสงสีฟ้า (HEVIS) เป็นแสงพลังงานสูงมีความยาวคลื่นอยู่ระหว่าง 400-500 นาโนเมตร สามารถลงลึกไปใต้ชั้นผิว ส่งผลให้ผิวเกิดริ้มรอยก่อนวัย ทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง

 

การเลือกครีมกันแดดที่ดีควรเลือกที่สามารถป้องกันแสงแดดทั้งรังสี UVA/UVB และรวมถึงแสงสีฟ้า (HEVIS) ได้ด้วย แสงสีฟ้าคืออะไร เกี่ยวกับผิวเราอย่างไร

 

สถานที่

การเลือกครีมกันแดดควรคำนึงถึงสถานที่ในการทำกิจกรรมไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้ง หรือในที่ร่ม โดยเฉพาะกลางแจ้ง เวลากลางวันยิ่งต้องเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 ขึ้นไป หรือหากอยู่ในออฟฟิศที่มีแสงไฟสว่างตลอดทั้งวันสามารถเลือกใช้ครีมกันกันแดดที่มีค่า SPF ระหว่าง 15-30 ได้

ควรทาครีมกันแดดอย่างไร?

ทาครีมกันแดดให้สม่ำเสมอทั่วร่างกาย

โดยทาก่อนออกแดด 15-30 นาที ที่สำคัญควรทาครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแดด โดยทาครีมกันแดด 2 ข้อนิ้ว หรือปริมาณเท่ากับเหรียญ 10 สำหรับใบหน้าและลำคอ

ทาซ้ำ

ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หากมีเหงื่อมาก หรือโดนน้ำบ่อย

 

ค่า SPF เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว เพื่อทราบถึงประสิทธิภาพในการดูแลในการป้องกันแสงแดด ที่สำคัญคือควรใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมกับผิว

 

แนะนำครีมกันแดด

ครีมกันแดดเนื้อน้ำ,กันแดด,ครีมกันแดด

ครีมกันแดดเนื้อน้ำ สามารถใช้ได้ทุกวัน ไม่เหนอะหนะใช้ได้แม้กิจกรรมกลางแจ้ง แนะนำ Eucerin® Sun Hydro Protect Ultra Light Fluid SPF50+ 50 ML ผลิตภัณฑ์ป้องกันผิวจากแสงแดดสำหรับผิวหน้า ปกป้องผิวจากรังสี UV ทุกมิติ UVA/UVB เนื้อบางเบาเป็นพิเศษเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ มีเทคโนโลยี Hydro-tech complex ช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกสบายผิวทันทีหลังทา สามารถใช้ได้แม้ผิวที่บอบบาง

เซรั่มกันแดด,ครีมกันแดด,กันแดด

ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากฝุ่นและมลภาวะ แนะนำ Eucerin ULTRA PROTECTION GLOWING UV SERUM SPF50+ PA++++ 30 ML ผลิตภัณฑ์เซรั่มป้องกันแสงแดด สำหรับผิวหน้า ปกป้องฝุ่นมลภาวะและรังสี UV พร้อมบำรุงให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่ถูกทำร้ายจากรังสี UVB/A บูสผิวให้โกลว์กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ

 

ครีมกันแดดสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวอุดตัน แนะนำ Eucerin Sun Protection SUN DRY TOUCH ACNE OIL CONTROL SPF50+ PA+++ 50 ผลิตภัณฑ์ กันแดดสำหรับผิวหน้า ผิวเป็นสิว แพ้ง่าย ไวต่อแดด กันแดดสูตรควบคุมความมันเพื่อผิวเป็นสิวง่าย

 

นอกจากนี้สามารถเลือกใช้ กันแดดให้เหมาะสมตามแต่ละสภาพผิว เพื่อให้ปกป้องผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

คำถามที่พบบ่อย

จำเป็นต้องใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงหรือไม่

การเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงยิ่งปกป้องผิวได้ดีและยาวนานมากยิ่งขึ้น แต่สามารถเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมตามกิจกรรมที่ทำได้

 

ค่า SPF ที่สูงหมายถึงอยู่ได้นานกว่าหรือไม่

ค่า SPF ที่สูง คือค่าที่ระบุความสามารถในการป้องกันความไหม้แดดของผิว

 

การใช้ครีมกันแดดทุกวันปลอดภัยหรือไม่?

การใช้ครีมกันแดดทุกวันปลอดภัยหากเลือกใช้ครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวและใช้ในปริมาณที่เพียงพอ

 

เด็กสามารถใช้ครีมกันแดดได้หรือไม่?

ครีมกันแดดที่ใช้กับเด็ก ควรเป็นครีมกันแดดสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ที่ปราศจากสารเคมีต่างๆ และมีค่า SPF 30 ขึ้นไป

 

ครีมกันแดดที่หมดอายุยังใช้ได้หรือไม่?

ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ เนื่องจากประสิทธิภาพในการกันแดดจะลดลง

 

สามารถแต่งหน้าหลังจากทากันแดดได้หรือไม่?

สามารถแต่งหน้าหลังทาครีมกันแดดได้ ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารกันแดดหลายประเภท

 

ครีมกันแดดควรทาซ้ำบ่อยแค่ไหน?

ครีมกันแดดสามารถทาซ้ำได้ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้การป้องกันยูวีเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

คุณอาจจะสนใจสิ่งเหล่านี้