ครีมกันแดดผิวกาย – เลือกอย่างไรจะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ?

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

ปกติแล้วในชีวิตประจำวัน คนส่วนใหญ่มักคิดว่าการสวมใส่เสื้อผ้ามิดชิดสามารถปกป้องผิวกายจากแสงแดดได้เพียงพอแล้ว และมักจะเลือกใช้ครีมกันแดดผิวกาย เพื่อปกป้องผิวกายเมื่อต้องเผชิญแสงแดดโดยตรงเป็นระยะเวลานาน เช่น การไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดเท่านั้น แต่แท้จริงแล้วการปกป้องผิวกายจากรังสียูวีคือสิ่งที่ควรทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ เพราะรังสียูวีสามารถซึมเข้าทำร้ายผิวได้แม้ในวันที่ไม่มีแสงแดด มีเมฆครึ้ม หรือแม้จะอยู่ในที่ร่มอย่างในอาคารก็ตาม ดังนั้น เราจึงควรรู้หลักในการเลือกครีมกันแดดผิวกายที่เหมาะกับสภาพผิวของคุณ เพื่อช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ครีมกันแดดผิวกายช่วยปกป้องผิวได้อย่างไร?

สิ่งหนึ่งที่หลายคนยังคงสงสัยคือ เหตุใด ครีมกันแดดทาหน้า ถึงไม่สามารถใช้ปกป้องผิวเหมือนครีมกันแดดผิวกายได้ สาเหตุเกิดจากผิวกายไม่ได้เผชิญกับแสงแดดและมลภาวะโดยตรงเท่ากับผิวหน้า ส่งผลให้ผิวกายมีอัตราการผลัดเซลล์ผิวที่ต่ำกว่าผิวหน้า จึงมีชั้นผิวที่หนาและลอกเป็นขุยมากกว่า รวมถึงผิวชั้นบนของผิวหน้ามีเซลล์ผิวที่เล็กกว่าผิวกาย ซึ่งก็หมายถึงการมีชั้นเกราะปกป้องผิวที่บางกว่า ทำให้ผิวหน้ามีอัตราการสูญเสียน้ำได้สูงกว่าผิวกายนั่นเอง โดยชั้นหนังกำพร้าของผิวหน้าจะมีความหนาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.12 มม. ขณะที่ชั้นหนังกำพร้าของผิวกายมีความหนาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.60 มม. นอกจากนั้นแล้วความหนาของผิวกายนี้ยังนำไปสู่การสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วและการเจริญเติบโตของแบคทีเรียด้วย 

จากสาเหตุข้างต้นจะเห็นได้ว่า โครงสร้างผิว ตลอดจนสภาวะที่ผิวหน้าและผิวกายต้องเผชิญนั้นมีความแตกต่างกัน ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ใช้จึงต้องมีการออกแบบมาเพื่อช่วยในการปกป้องผิวจากแสงแดดที่แตกต่าง และไม่สามารถใช้ป้องกันแสงแดดทดแทนกันได้ การเลือกใช้ครีมกันแดดทาตัวให้เหมาะกับสภาพผิวกายของแต่ละคน จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น 

ครีมกันแดดผิวกายเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะ ?

แม้ว่าแสงแดดจะมีข้อดีมากมาย เช่น กระตุ้นการผลิตวิตามินดี กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และเพิ่มการผลิตเม็ดสีเมลานิน แต่ในขณะเดียวกันรังสียูวีในแสงแดดยังส่งผลเสียต่อผิวหนังมากมายซึ่งคุณอาจไม่เคยรู้ เพื่อการปกป้องผิวกายจากแสงแดดอย่างมีประสิทธิภาพ ควรเลือกครีมกันแดดผิวกายให้เหมาะกับการใช้งานและช่วงวัยไม่ว่าจะสำหรับผู้ใหญ่ หรือเด็ก ดังนี้ 

1. Eucerin Sun Body Sensitive Protect Dry Touch Spf 50+ Pa++++

มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB สามารถลดโอกาสการเกิดผิวหมองคล้ำ และปกป้องผิวจากการโดนทำร้ายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมีเทคโนโลยีแมททิฟายอิ้งพิกเมนต์ที่ช่วยควบคุมความมัน เนื้อครีมบางเบา ซึมสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะหลังการทากันแดดผิวกาย 
เหมาะสำหรับ : ทาเป็นประจำในแต่ละวันเพื่อช่วยปกป้องผิวกาย ทั้งฟื้นบำรุงผิวจากปัญหาผิวกายหมองคล้ำหลังเผชิญแสงแดด 

2. TRANSPARENT SUN SPRAY DRY TOUCH SPF 50 PA+++

ครีมกันแดดตัวในรูปแบบสเปรย์ใช้งานง่าย โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีแอโรซอลที่มีอณูขนาดเล็ก แห้งไว สบายผิวหน้า และมีสารสำคัญอย่างลิโคชาลโคน เอ ที่ช่วยป้องกัน UVA ไม่ให้ทำลายเซลล์ผิวได้มากถึง 80% ลดการเกิดปัญหาผิวต่างๆ ทั้งยังได้รับการทดสอบว่าเหมาะสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งเพราะช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างดีเยี่ยม
เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผิวต้องเผชิญแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ใช้กับผิวกายบริเวณที่เข้าถึงได้ยาก เช่น แผ่นหลัง ช่วยเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน 

3. Sun Kids Spray Spf 50+ Pa++++

นอกจากผู้ใหญ่จะต้องให้ความสำคัญในการใช้กันแดดผิวกายแล้ว สำหรับเด็กก็ต้องใส่ใจไม่แพ้กัน เพราะผิวของเด็กบอบบางกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า โดยผลิตภัฑ์กันแดดผิวกายของยูเซอรินนั้นปราศจากสี น้ำหอม และพาราเบน ลดการทำร้ายผิว ซึ่งเป็นเนื้อสเปรย์แบบใส บางเบาและได้รับการพิสูจน์แล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวเด็กแม้ผิวบอบบาง ไวต่อแสง 
เหมาะสำหรับ : ผิวเด็ก หรือคนที่มีผิวบอบบาง ไวต่อการระคายเคือง ไวต่อแสงค่อนข้างมาก 

ทาครีมกันแดดอย่างไร? ให้ปกป้องผิวได้เต็มประสิทธิภาพ

การทาครีมกันแดดผิวกายให้ถูกวิธีจะยิ่งเสริมประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดดให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงการใช้ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป และควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง เมื่อต้องทำกิจกรรมที่เปียกน้ำหรือเหงื่อ นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคือควรทาครีมกันแดดตัว 10-15 นาที ก่อนเผชิญแสงแดด นอกจากการเลือกครีมกันแดดผิวกายที่เหมาะกับสภาพผิวและการใช้งานของเราแล้ว ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถป้องกันผิวจากแสงแดดได้อีกเช่นกัน 

การเลือกครีมกันแดดผิวกายให้เหมาะกับสภาพผิว และรู้ถึงวิธีป้องกันที่ถูกต้องนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยป้องกันปัญหาผิวที่เกิดจากแสงแดดได้ดียิ่งขึ้น


บทความเกี่ยวข้อง