โรคผื่นกุหลาบ ผื่นจากเชื้อไวรัส มีสาเหตุและอาการอย่างไร วิธีการรักษา

อ่านแล้ว 5 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม


โรคผื่นกุหลาบ หรือเรียกอีกอย่างว่า Pityriasis rosea เป็นผื่นที่พบได้บ่อยในเด็กแต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ได้ ส่วนมากสามารถหายเองได้โดยที่ไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน แต่บางกรณีก็อาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้เช่นกัน


โรคผื่นกุหลาบ

โรคผื่นกุหลาบ (Pityriasis rosea) คืออะไร

ผื่นกุหลาบ คือ โรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่มักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูฝน โดยจะมีผื่นสีชมพูบนผิวหนัง และบริเวณผื่นอาจมีอาการคันและทำให้ไม่สบายตัว ในบางกรณีบริเวณที่เป็นผื่นกุหลายมีอาการผิวหนังลอกหรือเป็นขุยได้ หรืออาจเกิดแผลพุพองได้อีกด้วยสำหรับคนที่มีอาการค่อนข้างหนัก มักจะพบบ่อยในกลุ่มคนอายุ 10 - 35 ปี โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดอย่างแน่ชัด


การวินิจฉัยและอาการของ ผื่นกุหลาบ (Pityriasis rosea)

ผื่นกุหลาบ มักจะขึ้นที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง หลัง มีลักษณะเป็นแผลสีแดง นูนขึ้นเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการอื่นๆที่รุนแรง เช่น อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้หรือเจ็บคอ และสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ซึ่งแต่ละระยะจะมีอาการแตกต่างกันไป

  • ระยะที่ 1 อาการของ ผื่นกุหลาบ มักจะเริ่มด้วยผื่นรูปวงรี นูนเล็กน้อย ซึ่งเรียกว่า heral patch อาจมีเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 1-10 ซม. และมักเป็นสีชมพู แดง หรือสีแออกส้ม
  • ระยะที่ 2 เมื่ออาการผ่านไปประมาณ 2 สัปดาห์ ผื่นจะมีลักษณะคล้ายเดิม แต่จะมีขนาดเล็กและเพิ่มจำนวนไปทั่วทุกพื้นที่ใกล้เคียง มีลักษณะเป็นวงรี หรือวงกลม และมักจะมีขอบเป็นสะเก็ด ผื่นเหล่านี้อาจทำให้อาการคันหรือทำให้ร่างกายไม่สบายตัว โดยอาการเหล่านี้สามารถอยู่ได้ทุกที่เป็นระยะเวลา 6-12 สัปดาห์ และจะเริ่มจางหายไป แต่อย่างไรก็ตาม หากผื่นรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นอาจต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อหาแนวทางการรักษา

อาการของโรคผื่นกุหลาบ

การรักษาและดูแลสำหรับผู้ที่เป็น โรคผื่นกุหลาบ

  1. การรักษาพื้นที่อยู่อาศัยให้สะอาด และชำระล้างร่างกาย ในบริเวณที่เป็นผื่นด้วยสบู่อ่อนๆ และหลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น หรือร้อนจัด
  2. ถ้ามีอาการคัน ให้ประคบเย็น ซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและอักเสบได้
  3. หลีกเลี่ยงการเกาตามผื่นแดง เพราะอาจทำให้ผื่นแย่ลงและนำไปสู่การติดเชื้อ
  4. หากอาการผื่นกุหลาบไม่ดีขึ้น หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้หรือหายใจลำบาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา
  5. การดูแลตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย
  6. การทาครีมหรือขี้ผึ้งเฉพาะที่ จะสามารถช่วยบรรเทาอาการคันและอักเสบสำหรับคนที่มีผิวแห้ง แดง คัน มีแนวโน้มผื่นภูมิแพ้จากผื่นกุหลาบได้ อย่างการใช้ครีม Eucerin OMEGA BALM LIGHT TEXTURE ที่มีสารสำคัญอย่าง Licochalcone A สารจากธรรมชาติ ที่ช่วยลดปัญหาผิวแห้ง แดง และการระคายที่มีสาเหตุจากผิวแห้ง พร้อมผสาน Omega 3&6 fatty acids และ Ceramides เพื่อคืนความชุ่มชื่นและฟื้นบำรุงชั้นปกป้องผิว ให้มีสุขภาพดีขึ้น สูตรอ่อนโยน ปราศจากพาราเบน น้ำหอม และสี และช่วยลดโอกาสการกลับเป็นซ้ำของปัญหาผิวแห้ง แดง คัน ระคายเคือง สามารถใช้ได้ในผิวเด็กทารก และใช้ Eucerin Aquaphor SOOTHING BALM ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวเติมความชุ่มชื้นด้วย Panthenol และช่วยปลอบประโลมผิวด้วย Biabolol ช่วยเคลือบปกป้องผิวจากการเสียดสี และการสูญเสียน้ำของผิวในระหว่างวัน

ปกติแล้วผื่นกุหลาบสามารถหายเองได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยที่ไม่มีแผลเป็น เมื่อคุณทราบแล้วว่าเป็นผื่นกุหลาบหรือไม่ ควรเริ่มรักษาผื่นกุหลาบจากการดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่อาจเป็นสาเหตุของผื่นกุหลาบ และถ้ามีอาการแทรกซ้อน เช่น อาการคันอย่างรุนแรง ควรเข้าปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน


ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง