โรคผื่นกุหลาบ หรือเรียกอีกอย่างว่า Pityriasis rosea เป็นผื่นที่พบได้บ่อยในเด็กแต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ได้ ส่วนมากสามารถหายเองได้โดยที่ไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน แต่บางกรณีก็อาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้เช่นกัน

โรคผื่นกุหลาบ หรือเรียกอีกอย่างว่า Pityriasis rosea เป็นผื่นที่พบได้บ่อยในเด็กแต่ก็สามารถเกิดขึ้นกับผู้ใหญ่ได้ ส่วนมากสามารถหายเองได้โดยที่ไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน แต่บางกรณีก็อาจส่งผลให้เกิดโรคอื่นๆตามมาได้เช่นกัน
ผื่นกุหลาบ คือ โรคผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง ที่มักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงฤดูฝน โดยจะมีผื่นสีชมพูบนผิวหนัง และบริเวณผื่นอาจมีอาการคันและทำให้ไม่สบายตัว ในบางกรณีบริเวณที่เป็นผื่นกุหลายมีอาการผิวหนังลอกหรือเป็นขุยได้ หรืออาจเกิดแผลพุพองได้อีกด้วยสำหรับคนที่มีอาการค่อนข้างหนัก มักจะพบบ่อยในกลุ่มคนอายุ 10 - 35 ปี โดยยังไม่ทราบสาเหตุที่เกิดอย่างแน่ชัด
ผื่นกุหลาบ มักจะขึ้นที่บริเวณหน้าอก หน้าท้อง หลัง มีลักษณะเป็นแผลสีแดง นูนขึ้นเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะไม่มีอาการอื่นๆที่รุนแรง เช่น อาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีไข้หรือเจ็บคอ และสามารถแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ซึ่งแต่ละระยะจะมีอาการแตกต่างกันไป
ปกติแล้วผื่นกุหลาบสามารถหายเองได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยที่ไม่มีแผลเป็น เมื่อคุณทราบแล้วว่าเป็นผื่นกุหลาบหรือไม่ ควรเริ่มรักษาผื่นกุหลาบจากการดูแลตัวเองและหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่อาจเป็นสาเหตุของผื่นกุหลาบ และถ้ามีอาการแทรกซ้อน เช่น อาการคันอย่างรุนแรง ควรเข้าปรึกษาแพทย์อย่างเร่งด่วน