การทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า (Facelift Surgery) เป็นทางเลือกที่ใครหลายๆคนกำลังพิจารณาเพื่อปรับรูปลักษณ์ของใบหน้าของตนเองให้ดูอ่อนเยาว์และสดใสขึ้น โดยการยกกระชับผิวหน้าที่หย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยตามวัยที่เพิ่มขึ้น ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจถึงทุกสิ่งที่ควรรู้ก่อนที่จะตัดสินใจทำการผ่าตัดดึงหน้า
การผ่าตัดดึงหน้า คือ?
การผ่าตัดดึงหน้า หรือ Face Lift Surgery คือ การผ่าตัดเพื่อยกกระชับผิวหน้าและผิวบริเวณคอที่มีความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยให้กระชับมากขึ้น โดยการผ่าตัดแบบนี้มักจะทำเพื่อปรับโครงสร้างใบหน้าให้ดูตึงขึ้นและลดริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวหนัง เนื่องจากอายุที่มากขึ้นหรือการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิว โดยการผ่าตัดดึงหน้าสามารถทำได้หลายเทคนิค อย่างการดึงผิวหนังแค่ชั้นผิวด้านบน (Subcutaneous Face Lift) หรือการดึงผิวหนังพร้อมกับการยกกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อด้านล่าง (SMAS Facelift) ซึ่งจะให้ได้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
การผ่าตัดดึงหน้า ช่วยเรื่องอะไร?
1. ลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
การผ่าตัดดึงหน้าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยต่างๆ อย่างริ้วรอยรอบดวงตา ร่องลึกบริเวณจมูก ริมฝีปาก และบริเวณลำคอ ด้วยการยกกระชับชั้นผิวหนังและเนื้อเยื่อใต้ผิว ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและอ่อนเยาว์มากขึ้น โดยการดึงหน้าจะช่วยจัดการปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวได้ดี
2. ปรับโครงหน้าให้เรียวขึ้น
การศัลยกรรมดึงหน้าสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้มีโครงสร้างที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะบริเวณกรอบหน้าและลำคอที่หย่อนคล้อย ด้วยการยกกระชับผิวและกล้ามเนื้อบริเวณใต้คาง และช่วยลดปัญหาคางสองชั้น ทำให้รูปหน้าโดยรวมดูเรียวและสมส่วนมากขึ้น
3. กระตุ้นการผลิตคอลลาเจน
การผ่าตัดดึงหน้าไม่ได้เพียงแค่ยกกระชับผิวหนังที่หย่อนคล้อยเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวทำให้ผิวดูตึงกระชับมากขึ้น และยังคงผลลัพธ์ที่ดีต่อผิวในระยะยาว และช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิว
4. เพิ่มความมั่นใจในตัวเอง
การผ่าตัดดึงหน้าจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูอ่อนวัย สดใส และมีความกระชับมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่รับการรักษารู้สึกดีกับรูปลักษณ์ของตัวเอง มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
การผ่าตัดดึงหน้า เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป การผ่าตัดดึงหน้ามักเหมาะกับผู้ที่มีอายุมากขึ้นและเริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยหรือมีริ้วรอยที่เด่นชัด จนเห็นเป็นชัดเจน
- ผู้ที่มีสุขภาพที่ดี ไม่มีโรคประจำตัวที่มีผลต่อการฟื้นตัวจากการผ่าตัด อย่าง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่ต้องการปรับใบหน้าให้เต่งตึงและมีมิติมากขึ้น หรือผู้ที่รู้สึกว่าใบหน้าของตนเองดูแก่กว่าวัยหรือไม่พอใจกับริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้า
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าบางมากเกินไปหรือมีปัญหาผิวหนังที่มีรอยแผลหรือคีลอยด์ อาจจะต้องปรึกษาศัลยแพทย์เฉพาะทางก่อนตัดสินใจทำการผ่าตัดดึงหน้า
ขั้นตอนการผ่าตัดดึงหน้า
1. การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัด
- ศัลยแพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวหน้าและพูดคุยกับผู้ทำการผ่าตัดถึงผลลัพธ์ที่คาดหวัง
- ทำการตรวจสุขภาพเบื้องต้น อย่างการตรวจเลือด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถทำการผ่าตัดได้อย่างปลอดภัย
2. การทำการผ่าตัด
- ในระหว่างการผ่าตัด ศัลยแพทย์จะทำการตัดผิวหนังบริเวณใบหน้าตามแนวที่ถูกออกแบบไว้ เพื่อยกกระชับผิว
- ในบางกรณี ศัลยแพทย์อาจทำการยกกล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังเพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพและยาวนานมากขึ้น
3. การฟื้นตัวหลังการผ่าตัด
- ผู้ที่ทำการผ่าตัดจะต้องพักฟื้นในคลินิกหรือโรงพยาบาลเพื่อดูอาการเบื้องต้นก่อน
- แผลจะมีการเย็บไว้และต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ตามคำแนะนำอย่าง การทำความสะอาดแผลและการรับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง
- การฟื้นตัวจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับวิธีการและสภาพร่างกายของผู้ทำการผ่าตัด
ข้อดี-ข้อเสียของการผ่าตัดดึงหน้า
ข้อดี
- ผลลัพธ์ที่ยาวนาน การผ่าตัดดึงหน้ามักให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานถึง 10 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังการผ่าตัด
- ช่วยปรับโครงหน้าให้เรียวและกระชับขึ้น ทำให้รูปหน้าให้ดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- เพิ่มความมั่นใจ ใบหน้ามีมิติและไม่มีรอยเหี่ยวหย่น รู้สึกมั่นใจมากขึ้น
ข้อเสีย
- ต้องพักฟื้นเพราะการผ่าตัด อาจต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวนานประมาณ 1-2 สัปดาห์
- มีความเสี่ยงจากการผ่าตัด เพราะการดึงหน้ามีความเสี่ยงจากการติดเชื้อหรือแผลที่หายไม่ดี
- ผลข้างเคียง อาจมีอาการบวม, ฟกช้ำ หรือรู้สึกตึงเจ็บบริเวณแผลหลังการผ่าตัดในช่วงแรก
การดึงหน้าถือเป็นวิธีการศัลยกรรมที่ช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าและลำคอที่เห็นผลได้ชัดเจน ที่จะช่วยยกกระชับผิวให้ดูเรียบเนียนและอ่อนวัยมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยปรับโครงหน้าให้ดูเรียวและได้สัดส่วนมากขึ้น และผลลัพธ์อยู่ได้นาน และสิ่งสำคัญเราควรควบคู่ไปกับการดูแลผิวอย่างการใช้ครีมบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพกับผิว รวมถึงการดูแลผิวของตัวเองเป็นประจำทุกวัน
แนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวและละริ้วรอยแห่งวัย
Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum
หลังการทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า การดูแลผิวหน้าให้ดีเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ยาวนานและป้องกันการเกิดริ้วรอยในอนาคต ขอแนะนำ Eucerin Hyaluron-Filler Epicelline Serum เซรั่มต่อต้านริ้วรอยใหม่ ที่ช่วยป้องกันและจัดการ 10 สัญญาณแห่งวัย ด้วยนวัตกรรม Age Clock Technology ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร พร้อมด้วยสาร Epicelline® ที่เป็นสารทรงพลังใหม่ล่าสุดในการต่อต้านความร่วงโรยแห่งวัย ที่ค้นพบโดยทีมนักวิทยาศาสตร์ของ Eucerin หลังจากการวิจัยเกี่ยวกับ Epigenetics อย่างต่อเนื่องกว่า 15 ปี ช่วยชะลอความร่วงโรยของผิว ทั้งริ้วรอย หน้าเหี่ยว ผิวไม่กระชับ และผิวที่ดูแห้งไม่ชุ่มชื้น เสริมประสิทธิภาพด้วย Hyaluronic Acid ที่ช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความนุ่มชุ่มชื้นให้กับผิว และสาร Glycine Saponin ที่ช่วยกระตุ้นการผลิตไฮยาลูรอนิก คอลลาเจน และเพิ่มอีลาสตินของผิวหนัง พร้อมด้วยสาร Enoxolone ที่ช่วยลดการเสื่อมสลายของกรดไฮยาลูโรนิก ทำให้ผิวหน้ากระชับและดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงภายใน 4 สัปดาห์ และยังช่วยฟื้นฟูผิวจากมลภาวะภายนอกอย่างฝุ่น และแสงแดดอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย (3)
-
ดึงหน้าพักฟื้นนานไหม?
การฟื้นตัวหลังการผ่าตัดดึงหน้ามักใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับวิธีการผ่าตัดและสภาพร่างกายของผู้รับการผ่าตัดของแต่ละบุคคล
-
การดึงหน้าเจ็บมากไหม?
การดึงหน้าจะทำภายใต้ยาสลบ หรือยาชา ดังนั้นผู้ทำการผ่าตัดจะไม่รู้สึกเจ็บในระหว่างการผ่าตัด แต่หลังการผ่าตัดอาจจะรู้สึกตึงหรือมีความรู้สึกเจ็บเล็กน้อยในช่วงฟื้นตัว
-
การดึงหน้ามีผลข้างเคียงอะไรบ้าง?
หลังการผ่าตัดดึงหน้าอาจมีอาการบวม, ฟกช้ำ หรือรู้สึกตึงที่ผิวหน้าในช่วงแรก หลังจากนั้นอาการเหล่านี้จะค่อย ๆ หายไปตามระยะเวลาที่ดีขึ้นตามลำดับ