หลายคนอาจสงสัยว่า ทำไม “สิว” ถึงเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นปัญหาสิวเรื้อรังกวนใจที่ไม่เคยหายไปสักที ... ถึงแม้ว่าจะได้รับการดูแลจากแพทย์ผิวหนัง และใช้ยารักษาสิวเป็นประจำอย่างต่อเนื่องแล้วก็ตาม จริงๆ แล้วเราอาจจะต้องมองย้อนกลับไปดูที่ต้นทางสาเหตุของการเกิด “สิว” ว่าจริงๆ แล้ว “สิว” เกิดจากสาเหตุอะไร มีปัจจัยกระตุ้นทั้งจากภายใน และภายนอกร่างกายที่ทำให้สิวกลับเป็นซ้ำได้อีกหรือไม่
4 ปัจจัย ที่ทำให้เป็นสิวเรื้อรังไม่หายสักที
กลไกการเกิด “สิวเรื้อรัง” นั้นมีสาเหตุเกิดจาก 4 ปัจจัยหลักด้วยกัน ที่ได้รับการพูดถึงอยู่บ่อยครั้ง ได้แก่
- การอุดตันของรูขุมขน ทำให้เกิดการสร้างสิวอุดตันขนาดเล็กขึ้น
- ความผิดปกติของต่อมไขมัน ส่งผลให้เกิดความผิดปกติของสมดุลไขมันบริเวณผิวหนัง ร่วมกับมีการสะสมของไขมันบริเวณรูขุมขนที่เกิดการอุดตันเพิ่มมากขึ้น
- เชื้อแบคทีเรีย Cutibacterium acnes หรือ Propionibacterium acnes มีการสะสมเพิ่มจำนวนมากขึ้นบริเวณรูขุมขนที่เริ่มเกิดการอุดตัน
- เมื่อสิวอุดตันขนาดเล็กเริ่มมีการขยายตัวใหญ่มากขึ้น จะทำให้เซลล์ผิวหนัง ไขมัน และเชื้อแบคทีเรียที่เกิดการสะสมอยู่ภายใน แตกออกสู่ผิวหนังบริเวณข้างเคียง และกระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้น ทำให้มองเห็นเป็นสิวอักเสบ
การรักษาสิวเรื้อรัง
ซึ่งทั้ง 4 ปัจจัยต่างมีความเกี่ยวข้องกันอย่างซับซ้อนในการกระตุ้นทำให้เกิดสิวขึ้น ดังนั้นการรักษาสิวเรื้อรังในอุดมคติ จึงควรใช้ยารักษาที่ออกแบบมาเพื่อออกฤทธิ์พุ่งเป้าไปที่สาเหตุหลักของการเกิดสิวทั้ง 4 ปัจจัย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยาแต่ละชนิดที่ใช้มีฤทธิ์พุ่งเป้าในการรักษาสิวได้เพียงบางกลไกเท่านั้น ดังนั้นเพื่อลดวงจรการเกิดสิว อาจต้องใช้ยาหลายชนิดควบคู่กันในการรักษาสิวเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดียิ่งขึ้น นอกจากการใช้ยาที่เหมาะสมแล้ว การใช้ยารักษาสิวอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าสิวจะหายดีแล้วก็ตาม (maintenance therapy) ก็ยังช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำในอนาคตได้อีกด้วย
แต่อย่างที่ทราบกันดีว่ายารักษาสิวบางชนิด อาจก่อให้เกิดอาการแสบ ระคายเคือง จนอาจก่อให้เกิดภาวะผิวแห้ง แดงอักเสบได้ ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม dermocosmetic moisturizer ที่ปราศจากน้ำหอม สารกันเสีย ไม่ก่อให้เกิดสิวอุดตัน และไม่ก่อให้เกิดสิว หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์ต้านการอักเสบ เช่น nicotinamide หรือ สารสกัดจากชะเอมเทศ (licochalcone A) อาจมีบทบาทสำคัญในการช่วยส่งเสริมการรักษา เป็นเหมือนเพื่อนคู่ใจ ช่วยปลอบประโลม ลดอาการแสบระคายเคือง ทำให้สามารถใช้ยารักษาสิวได้อย่างต่อเนื่อง และป้องกันการเกิดเป็นซ้ำของสิวได้
นอกจากนี้ในผู้ป่วยสิวบางราย อาจมีปัญหาสิวอุดตัน กวนใจมากเป็นพิเศษ ทายารักษาสิวตามมาตรฐานแล้ว สิวอุดตันก็ยังลดลงได้ไม่ดีเท่าที่ควร การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดบางชนิด เช่น alpha hydroxy acid (AHA), beta hydroxy acid (BHA) หรือ polyhydroxy acid (PHA) ซึ่งเมื่อผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม dermocosmetics ในปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสม จะมีส่วนช่วยในการลดปริมาณสิวอุดตัน เสริมกับยาทารักษาสิวในปัจจุบันได้
ปัจจัยภายในที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรัง
นอกจากปัจจัยหลักของการเกิดสิวทั้ง 4 ปัจจัยที่กล่าวมาแล้ว “สิวเรื้อรัง” ที่เป็นซ้ำไม่หาย อาจเกิดจากโรคที่แอบซ่อนอยู่ภายในร่างกาย ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวรุนแรง เฉียบพลันได้ เช่น ภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (polycystic ovarian syndrome) ซึ่งมักมีอาการสิวที่เป็นรุนแรง รวดเร็ว ร่วมกับพบขนขึ้นเยอะผิดปกติ ประจำเดือนมาผิดปกติ ไข่ไม่ตก และตรวจพบถุงน้ำมากผิดปกติในรังไข่ ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติเหล่านี้แนะนำให้รีบตรวจประเมิน และได้รับการรักษาที่เหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดสิวเรื้อรัง
สุดท้ายนอกจากปัจจัยภายในแล้ว ยังมีปัจจัยภายนอกอีกมากมาย ที่อาจส่งผลให้เกิดการเป็นซ้ำของ “สิว” ได้ เช่น การรับประทานยาหรืออาหารเสริมบางชนิด, การใช้ผลิตภัณฑ์หรือเครื่องสำอางที่มีฤทธิ์กระตุ้นการเกิดสิว, การกดทับหรือเสียดสีบริเวณผิวหนังบ่อยๆ จากภายนอก, การใส่หน้ากากต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือการกระตุ้นสิวจากการประกอบอาชีพบางชนิด
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า “สิว” เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจ การรักษาสิวเรื้อรังที่ดีควรมุ่งเน้นการรักษาพุ่งเป้าการรักษาไปที่ 4 ปัจจัยหลักของการเกิดสิว ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้ยารักษาสิวอย่างต่อเนื่อง เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ dermocosmetics เสริมที่เหมาะสมกับสภาพผิวแต่ละคน และมองหาปัจจัยกระตุ้นผิดปกติทั้งจากภายในและภายนอกร่างกายที่อาจส่งผลให้ “สิวเรื้อรัง” เป็นซ้ำไม่หาย
ผู้เขียน :
อ.นพ.ณัฐชาต จุไรรัตนาภรณ์
Natthachat J, MD, MSc, FRCPT (Dermatology)
Instagram: @drnatthachat