สิวหาย แต่ทิ้งรอยแผลเป็นจากสิว จัดการอย่างไรดี

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
รอยแผลเป็นจากสิว

การใช้ชีวิตร่วมกับปัญหาสิวว่ายากแล้ว แต่สำหรับหลาย ๆ คน ยังต้องเจอกับปัญหารอยแผลเป็นจากสิวที่ตามมาอีกมากมายหลังจากที่สิวหาย นั่นคือรอยสิวและรอยแผลเป็นจากสิว ซึ่งเป็นเรื่องยากในการรักษาให้หายและน่ากังวลใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะบางคนที่มีปัญหาสิวรุนแรง ที่แม้สิวหายก็ยังทิ้งแผลเป็นจากสิวที่ดูรุนแรงและน่ากลัวไว้บนผิวจนทำให้ขาดความมั่นใจ 


รอยแผลเป็นจากสิว เกิดจากอะไร

โดยปกติแล้วรอยแผลเป็นจากสิวเกิดขึ้นเมื่อผิวหนังชั้นนอกสุด หรือชั้นหนังกำพร้าได้รับความเสียหายและส่งผลไปถึงชั้นผิวหนังที่อยู่ลึกลงไป เมื่อผิวไม่สามารถซ่อมแซมตนเองให้กลับมาเป็นเหมือนเคยได้ ผิวจะสร้างเนื้อเยื่อซึ่งมีส่วนประกอบของเส้นใยคอลลาเจนขึ้นมาแทนที่บริเวณบาดแผล โดยเส้นใยเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มแผลจากภายในสู่ภายนอก และช่วยรักษาบริเวณผิวหนังที่ถูกทำลายได้ เนื้อเยื่อที่เข้ามาเติมเต็มแผลนี้อาจจะรักษาบาดแผลแต่ทิ้งรอย และความไม่สม่ำเสมอของผิวที่สามารถมองเห็นได้

 

ต้นเหตุและปัจจัยที่มักจะทำให้เกิดแผลเป็นสิวบนใบหน้า

  • การบีบสิวหรือแกะสิว
    การพยายามบีบสิวด้วยนิ้วมือ ด้วยความรุนแรง(โดยเฉพาะสิวที่ยังไม่สุกเต็มที่) จะทำให้เส้นเลือดฝอย ต่อมต่าง ๆ และเนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ สิวถูกทำลาย ซึ่งมีผลทำให้อาการของสิวแย่ลงและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดแผลเป็นได้
  • สิวอักเสบที่มีความรุนแรง
    ในขณะเดียวกันสิวที่อักเสบรุนแรงและหายช้า ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงที่ทำให้เกิดรอยดำ รอยแดงจากสิว และรอยแผลเป็นจากสิวได้เช่นกัน

ชนิดของรอยแผลเป็นจากสิว

รอยแผลเป็นจากสิวมีหลายประเภท ลักษณะแผลเป็นต่อไปนี้คือแผลเป็นที่สัมพันธ์กับปัญหาสิวมากที่สุด คือ

รอยหลุมสิว

รอยดำจากสิว

เกิดจากเนื้อเยื่อถูกทำลายขณะที่เราเป็นสิว โดยผิวบริเวณนั้นยังมีการสร้างเนื้อเยื่อที่ไม่สมบูรณ์ และมีการรวมตัวของเม็ดสีจึงทำให้เกิดรอยดำจากสิวขึ้น มักเกิดภายหลังจากที่สิวอักเสบหายดีแล้ว แสงแดดมีส่วนทำให้รอยดำจากสิวมีสีเข้มขึ้น

 

รอยแดงจากสิว

เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนเพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป และการอุดตันของน้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วรวมไปถึงแบคทีเรียต่างๆ อาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นเกิดการอักเสบบริเวณผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากการบีบ แคะ แกะสิวจนเกิดอาการบวบช้ำ ทำให้เกิดรอยแดงดังกล่าวขึ้น

 

แผลเป็นชนิดหลุม หรือรอยหลุมสิว (Atrophic scar)

 

คือรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นหลุมสิว บางครั้งเรียกว่า "Ice pick scar" ซึ่งแผลเป็นเหล่านี้เกิดจากการรักษาแผลไม่ถูกวิธีและเนื้อเยื่อไม่สมานกัน เกิดเป็นแผลและหลุมลักษณะตัววีภายในผิว ทำให้ผิวภายนอกเกิดหลุมในลักษณะรอยหยักเล็ก ๆ ที่มองเห็นได้ 

 

แผลเป็นนูน (Hypertrophic scar)

คือ เนื้อเยื่อแผลเป็นที่ยกนูนขึ้นมาจากผิวหนัง เมื่อเกิดสิวอักเสบบนผิวหนัง ผิวหนังจะผลิตเนื้อเยื่อขึ้นภายในบาดแผล แต่เนื้อเยื่อนี้ไม่ได้มีโครงสร้างเช่นเดียวกับเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ดังนั้นจึงทำให้เกิดความหนานูนขึ้นบนผิวหนังรอบรอยสิว

 

แผลเป็นนูนคีลอยด์ (Keloids)

เมื่อแผลเป็นนูน โตขึ้นและขยายไปยังผิวบริเวณอื่น แผลเป็นเช่นนี้จะเรียกว่าคีลอยด์ มีลักษณะเหมือนแผลเป็นที่นูนขึ้นและมีสีม่วงแดงเมื่อเป็นใหม่ ๆ แต่สีจะค่อย ๆ จางหายไป ซึ่งแผลเป็นประเภทนี้มักจะเกิดกับแผลไฟไหม้ แต่อาจจะเกิดจากสิวได้ในบางครั้ง

รอยแผลเป็นจากสิวจะมีลักษณะแตกต่างจากผิวโดยรอบ ทำให้ต่อมน้ำมัน หรือต่อมเหงื่อไม่สามารถทำงานในเนื้อเยื่อแผลเป็นได้ และเส้นขนก็ไม่สามารถเติบโตได้เช่นกัน เนื้อเยื่อบริเวณแผลเป็นจากสิวจะมีเส้นใยยืดหยุ่นน้อยกว่าทำให้ผิวดูแข็งขึ้น การไหลเวียนและการให้ความชุ่มชื้นลดลง ทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นรักษาระดับความชุ่มชื้นได้น้อยลงและเนื้อเยื่อผิวอาจตายได้

จะรักษาแผลเป็นสิวหรือลดรอยแผลเป็นจากสิวได้อย่างไร

รอยแผลเป็นจากสิวนั้นไม่สามารถรักษาลบออกได้หมด แต่สามารถลดขนาดและทำให้จางลงได้ การลดบรอยแผลเป็นจากสิวอาจใช้เวลานานเป็นปีกว่าที่ผิวของคุณจะดีขึ้นได้
การรักษารอยแผลเป็นจากสิวมีอยู่หลายวิธี ให้เลือกใช้ ขึ้นอยู่กับลักษณะ ขนาดและรูปแบบของรอยแผลเป็น รวมไปถึงไม่ควรเริ่มการรักษาจนกว่าสิวจะหายสนิท ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากวิธีการรักษาที่รุนแรง ซึ่งวิธีลดรอยแผลเป็นจากสิวส่วนใหญ่ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมีดังนี้

 

การรักษาแผลเป็นจากสิวด้วยตนเอง

สำหรับรอยแผลเป็นจากสิวที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่หรือมีความลึกมาก สามารถรักษาด้วยตนเองเบื้องต้นได้ง่ายๆ เช่น

 

กรดผลไม้

กรดผลไม้มักใช้เพื่อรักษาผิวที่มีรอยหรือรอยแผลเป็นสิว กรดผลไม้มีความเข้มข้นต่ำ (12%) สามารถทำเองได้ที่บ้าน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามจะใช้กรดผลไม้ที่มีความเข้มข้นได้ถึง 40% และแพทย์ผิวหนังสามารถใช้กรดผลไม้ความเข้มข้นได้ถึง 70% แพทย์ผิวหนังจะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเข้มข้นที่เหมาะสมได้ดีที่สุด และการใช้กรดผลไม้ต้องทำซ้ำหลายครั้งจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน

 

น้ำมัน Tea Tree Oil

น้ำมัน Tea Tree Oil มีสรรพคุณในการช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อโรคแปลกปลอมต่างๆบนผิวของเรา ช่วยเสริมการฟื้นฟูผิวของใบหน้าและเป็น anti-oxidant ด้วยในตัว ทำให้รอยแผลพวกรอยดำ รอยแดงต่างๆ หายเร็วขึ้น และด้วยสรรพคุณในการควบคุมความมัน ลดการอุดตันของรูขุมขน ก็เป็นการช่วยลดต้นเหตุของสิวไปด้วยในตัว

 


วีธีลดรอยคีลอยด์

เลเซอร์บำบัด

การใช้เลเซอร์บำบัดเป็นการใช้แสงส่งพลังงานทำให้ผิวหนังได้รับบาดเจ็บ เพื่อกระตุ้นกระบวนการบำบัดตามธรรมชาติของร่างกาย ส่งผลให้เซลล์ผิวใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นมาทดแทนเรียบเนียนขึ้น  ซึ่งการรักษาด้วยวิธีเลเซอร์นั้นที่มีอยู่หลายประเภท และควรดำเนินการโดยแพทย์ผิวหนังที่มีประสบการณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บของผิวหนังโดยรอบ โดยข้อเสียของการใช้เลเซอร์คือต้องทำซ้ำหลาย ๆ ครั้งเพื่อให้ได้ผลดีในระยะยาว

 

การฉีดยา

แผลเป็นจากสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมยังสามารถรักษาให้ตื้นขึ้นได้ด้วยการฉีดยา โดยฉีดกรดไฮยาลูรอนิกลงไปในขอบหยักของรอยแผลเป็นหลุมเพื่อเติมผิวให้เต็ม อย่างไรก็ตามกรดไฮยาลูรอนิกจะค่อย ๆ สลายตัวลงตามธรรมชาติ การรักษาด้วยวิธีนี้จึงให้ผลลัพธ์ในระยะสั้นเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม การฉีดยาเพื่อรักษาแผลเป็นจากสิวจะเห็นผลในระยะยาวมากกว่าเมื่อนำไปใช้กับแผลเป็นนูน ด้วยการฉีดสาร cortisone ซึ่งช่วยให้เนื้อเยื่อแผลเป็นค่อย ๆ สลายและมีรอยนูนลดลง

 

การรักษาแผลเป็นโดยใช้เข็มเล็ก ๆ (Microneedling)

การรักษาผิวหน้าด้วยวิธี Microneedlling เป็นการใช้อุปกรณ์ที่มีเข็มแหลม มีความยาวไม่เกิน 0.5 มม.จำนวนมากแทงลงชั้นบนสุดของผิว เพื่อให้ผิวเกิดบาดแผลเล็ก ๆ และกระตุ้นกลไกการซ่อมแซมผิว ด้วยการส่งสัญญาณว่ามีการบาดเจ็บที่ต้องได้รับการซ่อมแซม ซึ่งผิวจะตอบสนองด้วยการปล่อยคอลลาเจน อีลาสตินและกรดไฮยาลูรอนิกออกมาและใช้
เวลาไม่นาน รอยแผลเป็นสิวจะค่อย ๆ ตื้นขึ้น และช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง อ่อนเยาว์ขึ้นด้วยแต่ทั้งนี้อุปกรณ์ Microneedling ควรให้แพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านความงามเป็นผู้ให้การรักษา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ผิวจะเกิดการอักเสบ

 

ใช้คลื่นวิทยุกระตุ้น

การลดรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวด้วยการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio Frequency) หรือเครื่อง E-matrix เป็นการปล่อยพลังงานความร้อนลงไปในผิวหนัง เพื่อกระตุ้นให้คอลลาเจนในผิวหดตัวลงและเกิดการสร้างตัวขึ้นมาใหม่ ช่วยทำให้ผิวตื้น กระชับและเรียบเนียนขึ้นได้ อีกทั้งวิธีนี้ทำให้เกิดแผลหรือเอฟเฟกต์หลังทำที่น้อยกว่าเลเซอร์ หรือการใช้เข็มเล็กๆ

ผลที่ตามมาอย่างชัดเจนและรุนแรงที่สุดของสิวไม่ใช่แค่รอยแผลเป็นเท่านั้น แต่สิวสามารถทิ้งรอยอื่น ๆ ไว้ได้อีก เช่น รอยสิวที่เกิดจากการอักเสบ (Hyperpigmentation) ภายในผิว ทำให้เกิดเป็นรอยดำจากสิว ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่คนเป็นสิวกังวลและขาดความมั่นใจได้ (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดรอยดำได้ที่นี่)

โชคดีที่ปัจจุบันมีตัวเลือกมากมายสำหรับการแก้ปัญหาและรักษารอยแผลเป็นจากสิวเหล่านี้ แต่สิ่งที่ดีที่สุดของการลดรอยแผลจากสิวคือการป้องกันไม่ให้เกิดสิวตั้งแต่แรก และเมื่อเป็นสิวพยายามอย่าแกะ หรือกดสิวออกด้วยตัวเอง ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับคนเป็นสิวอักเสบโดยเฉพาะ ทั้งในเรื่องของความสะอาด หรือการจัดการกับปัญหาสิวอุดตัน เพื่อดูแลให้สิวหายไวขึ้น เป็นวิธีที่ดีที่สุดของการป้องกันการเกิดรอยแผลเป็นจากสิว 


แนะนำผลิตภัณฑ์รักษาสิวจาก Eucerin

รักษาสิว

Eucerin PRO ACNE SOLUTION 3X TREATMENT GEL TO FOAM CLEANSER เจลโฟมล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิวผิวมัน ที่ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดผลัดเซลล์ผิว สลายสิ่งอุดตันได้ลึกถึงต้นตอ ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินไปพร้อมๆ กับการลดการเกิดสิว ลดรอยสิว ผิวชุ่มชื้น และยังช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง เนื้อโฟมฟองนุ่ม อ่อนโยนต่อผิวสำหรับคนเป็นสิวง่าย

 

Eucerin Pro ACNE SOLUTION SOS SERUM เซรั่มสำหรับคนเป็นสิว ที่คอยช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ดูแลปัญหาสิวพร้อมควบคุมความมันส่วนเกินที่จะเกิดขึ้น ทำให้ปัญหาสิวลดลง ลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำ ช่วยลดแบคทีเรียก่อสิว และดูแลปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวได้พร้อมๆ กัน ช่วยจบปัญหาสิวใน 7 วัน และยังลดการอักเสบของสิวใน 8 ชม. แนะนำทาเซรั่ม

 

Eucerin Pro ACNE SOLUTION TRIPLE EFFECT SERUM เซรั่มที่ช่วยลดสิว ลดรอยสิว และคุมมัน สูตรเข้มข้นเนื้อบางเบา ด้วยสารสำคัญอย่าง ไทอามิดอล THIAMIDOL™ สารไบรท์เทนนิ่งประสิทธิภาพดีที่สุดจาก ยูเซอริน ที่ช่วยตัดตอนรอยดำลึกถึงจุดกำเนิด ด้วยกลไกที่สำคัญที่สุด สำหรับลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ ให้ดูลดเลือนได้มากถึง 80% และช่วยจบปัญหารอยดำจากสิวและจุดด่างดำทุกประเภท ใน 2 สัปดาห์ พร้อมลดโอกาสเกิดรอยสิวซ้ำ และยังมีสาร Salicylic Acid เป็นสารที่แพทย์ผิวหนังแนะนำในการรักษาสิว ที่ช่วยสลายสิ่งอุดตัน ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดรอยดำจากสิวที่ฝังลึก พร้อมปรับสีผิวหมองคล้ำด้วยลิโคชาลโคน เอ และเทคโนโลยี Sebum Regulating ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าอีกด้วย

 

เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้น และเห็นผลชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ครั้งแรกเมื่อใช้ Eucerin Pro ACNE SOLUTION TRIPLE EFFECT SERUM คู่กับตัว Eucerin PRO ACNE SOLUTION 3X TREATMENT GEL TO FOAM CLEANSER โดยผู้ใช้จริงกว่า 92% ยืนยันว่า 95% ช่วยลดปัญหาสิวลดลง 92% รอยสิวลดลง และ 97% ความมันลดลง หลังใช้ภายใน 7 วัน และเมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง

คำถามที่พบบ่อย (2)

  • รอยแผลเป็นจากสิว หายได้ไหม

    รอยแผลเป็นจากสิวสามารถจางลงได้ แต่การทำให้สิวหายสนิทนั้นขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของรอยสิว อย่างรอยดำ รอยแดงมักจางได้เองหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว การทำเลเซอร์ช่วย ช่วยในส่วนของรอยหลุมสิวที่รักษายาก หรือสำหรับรอยนูนรักษาได้ด้วยฉีดสเตียรอยด์, เลเซอร์, หรือผ่าตัด

  • รอยแผลเป็นจากสิว กี่วันหาย

    ระยะเวลาที่รอยแผลเป็นจากสิวจะหายไปนั้น ขึ้นอยู่กับประเภทและความรุนแรงของรอยแผลเป็น อย่างรอยดำ รอยแดงโดยทั่วไปจะจางลงภายใน 2-4 เดือน หรืออาจนานกว่านั้นในบางกรณี รอยแผลเป็นหลุมรอยแผลเป็นประเภทนี้หายได้ยากกว่าและต้องใช้เวลานานกว่า และอาจต้องรักษาหลายวิธีร่วมกัน การทำเลเซอร์, การเติมฟิลเลอร์, การกรอผิว, หรือการผ่าตัด และรอยแผลเป็นนูน จะเป็นการรักษาด้วยการฉีดสเตียรอยด์, การทำเลเซอร์, หรือการผ่าตัด ซึ้งแต่ละแบบก็ใช้เวลาแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผิวแต่ละบุคคล