รอยดำจากสิว
เกิดจากเนื้อเยื่อถูกทำลายขณะที่เราเป็นสิว โดยผิวบริเวณนั้นยังมีการสร้างเนื้อเยื่อที่ไม่สมบูรณ์ และมีการรวมตัวของเม็ดสีจึงทำให้เกิดรอยดำจากสิวขึ้น มักเกิดภายหลังจากที่สิวอักเสบหายดีแล้ว แสงแดดมีส่วนทำให้รอยดำจากสิวมีสีเข้มขึ้น
รอยแดงจากสิว
เกิดจากการอุดตันในรูขุมขนเพราะต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากเกินไป และการอุดตันของน้ำมัน และเซลล์ผิวที่ตายแล้วรวมไปถึงแบคทีเรียต่างๆ อาจจะทำให้ผิวหนังอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบขึ้นเกิดการอักเสบบริเวณผิวหนัง ซึ่งอาจเกิดจากการบีบ แคะ แกะสิวจนเกิดอาการบวบช้ำ ทำให้เกิดรอยแดงดังกล่าวขึ้น
แผลเป็นชนิดหลุม หรือรอยหลุมสิว (Atrophic scar)
คือรอยแผลเป็นที่มีลักษณะเป็นหลุมสิว บางครั้งเรียกว่า "Ice pick scar" ซึ่งแผลเป็นเหล่านี้เกิดจากการรักษาแผลไม่ถูกวิธีและเนื้อเยื่อไม่สมานกัน เกิดเป็นแผลและหลุมลักษณะตัววีภายในผิว ทำให้ผิวภายนอกเกิดหลุมในลักษณะรอยหยักเล็ก ๆ ที่มองเห็นได้
แผลเป็นนูน (Hypertrophic scar)
คือ เนื้อเยื่อแผลเป็นที่ยกนูนขึ้นมาจากผิวหนัง เมื่อเกิดสิวอักเสบบนผิวหนัง ผิวหนังจะผลิตเนื้อเยื่อขึ้นภายในบาดแผล แต่เนื้อเยื่อนี้ไม่ได้มีโครงสร้างเช่นเดียวกับเนื้อเยื่อที่มีสุขภาพดี ดังนั้นจึงทำให้เกิดความหนานูนขึ้นบนผิวหนังรอบรอยสิว
แผลเป็นนูนคีลอยด์ (Keloids)
เมื่อแผลเป็นนูน โตขึ้นและขยายไปยังผิวบริเวณอื่น แผลเป็นเช่นนี้จะเรียกว่าคีลอยด์ มีลักษณะเหมือนแผลเป็นที่นูนขึ้นและมีสีม่วงแดงเมื่อเป็นใหม่ ๆ แต่สีจะค่อย ๆ จางหายไป ซึ่งแผลเป็นประเภทนี้มักจะเกิดกับแผลไฟไหม้ แต่อาจจะเกิดจากสิวได้ในบางครั้ง
รอยแผลเป็นจากสิวจะมีลักษณะแตกต่างจากผิวโดยรอบ ทำให้ต่อมน้ำมัน หรือต่อมเหงื่อไม่สามารถทำงานในเนื้อเยื่อแผลเป็นได้ และเส้นขนก็ไม่สามารถเติบโตได้เช่นกัน เนื้อเยื่อบริเวณแผลเป็นจากสิวจะมีเส้นใยยืดหยุ่นน้อยกว่าทำให้ผิวดูแข็งขึ้น การไหลเวียนและการให้ความชุ่มชื้นลดลง ทำให้เนื้อเยื่อแผลเป็นรักษาระดับความชุ่มชื้นได้น้อยลงและเนื้อเยื่อผิวอาจตายได้