ยาแต้มสิว ครีมแต้มสิว เจลแต้มสิว หรือยาทารักษาสิวเฉพาะที่ เป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาสิวที่นิยมใช้รักษาสิวที่มีอาการไม่รุนแรงจนถึงสิวระดับรุนแรง โดยการรักษาด้วยการใช้ยาแต้มสิวควบคู่กับการรับประทานยาที่ถูกต้องควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ หรือเภสัชกรเพื่อประสิทธิภาพการรักษาสูงสุด และลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงต่อผิวหนัง เนื่องจากสารสำคัญในยาแต้มสิวมีหลากหลายชนิดและให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เราจึงควรทำความเข้าใจก่อนเลือกใช้งาน
รักษาสิวด้วย ยาแต้มสิว ทาอย่างไรให้ปลอดภัย
ยาแต้มสิว หรือ ครีมแต้มสิว การเลือกใช้ควรดูจากสภาพของสิวก่อน เพราะ 'สิว' สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ทั้งสิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวไม่มีหัว สิวมีหัว หรือสิวประเภทอื่นๆ ต่างมีปัจจัยที่เป็นตัวกระตุ้นเชื้อสิวที่แตกต่างกัน นอกจากนี้สิวยังมีความรุนแรงที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งระดับความรุนแรงสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- สิวเล็กน้อย (Mild)
คือ สิวที่ไม่มีหัวอักเสบเป็นส่วนใหญ หรือเกิดสิวอักเสบขึ้นไม่เกิน 10 จุด บนใบหน้า - สิวปานกลาง (Moderate)
คือ เกิดสิวอักเสบขนาดเล็กกกมากกว่า 10 จุด หรือมีสิวอุดตันน้อยกว่า 5 จุด - สิวรุนแรง (Severe)
คือ เกิดสิวอักเสบที่มีหัวหนอง หรือ มีสิวอุดตันเป็นจำนวนมาก ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาสิวนาน และมีแนวโน้มเป็นสิวซ้ำๆ ไม่หาย
เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าสิวแต่ละประเภทนอกจากมีสาเหตุการเกิดที่แตกต่างกันแล้ว ยังมีระดับความรุนแรงที่ต่างกันด้วย จึงมีวิธีการดูแลและการใช้ยาแต้มสิวรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งยารักษาสิว หรือครีมแต้มสิว เจลแต้มสิว บางชนิดอาจไม่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาสิวบางประเภท ดังนั้นการใช้ยาแต้มสิวเพื่อรักษาสิว จึงควรผ่านการวินิจฉัยสภาพผิวและอาการสิวของแต่ละบุคคลโดยละเอียดก่อน เพื่อทำการประเมินและให้คำแนะนำในการรักษาสิวที่เหมาะสมที่สุด ช่วยแก้ปัญหาสิวได้ตรงจุดและมีประสิทธิภาพที่สุด
สารสำคัญในยาแต้มสิว ที่ช่วยดูแลรักษาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพราะการเลือก ยาแต้มสิว หรือครีมรักษาสิว ควรเลือกให้เหมาะกับความรุนแรงของสิวและประเภทของสิว โดยยารักษาสิวชนิดแต้ม ในกรณีที่มีสิวรุนแรงมากถึงปานกลาง เช่น เป็นสิวหนองหรือสิวอุดตันเป็นจำนวนมากทั่วใบหน้า และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยสารสำคัญที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์รักษาสิว หรือยาแต้มสิวมีดังนี้
1. Benzoyl Peroxide (BP)
ยาแต้มสิว ที่สามารถหาซื้อได้เองและมีหลายยี่ห้อให้เลือก โดยมีระดับความเข้มข้น ตั้งแต่ 2.5%, 5% และ 10%
เหมาะกับสิวประเภทใด |
สิวอุดตัน, สิวผด, สิวอักเสบที่มีระดับความรุนแรงปานกลาง - รุนแรง
|
กลไกการทำงาน |
ปล่อย Free oxygen radical มาทำลายเชื้อ P.acnes ผลัดเซลล์เพื่อลดการอุดตันรูขุมขนและละลายหัวสิว |
วิธีใช้ |
ล้างเมคอัพหรือครีมกันแดดออกก่อน แล้วทา BP ให้ทั่วผิวหน้า หากใช้ครั้งแรกควรเริ่มต้นที่ความเข้มข้นน้อยและใช้เวลาเริ่มต้นที่ 5 นาที แล้วค่อยๆ ไล่ระดับเวลา หรือความเข้มข้นที่เพิ่มขึ้น จากนั้นล้างออกด้วยน้ำเปล่าก่อนการล้างหน้าปกติ |
ผลข้างเคียง |
ผิวแห้งลอก ระคายเคือง ไวต่อแสงแดดและไม่เหมาะกับผิวแพ้ง่าย |
คำแนะนำ |
แม้จะหาซื้อใช้เองได้ แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ และควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดควบคู่เป็นประจำ |
2. Retinoid (อนุพันธ์กรดวิตามินเอ)
สารในกลุ่มเบต้าแคโรทีน (beta carotene) ที่พบตามธรรมชาติและถูกสกัดมาเป็นผลิตภัณฑ์ยาแต้มสิว โดยมีความเข้มเข้มที่ 0.025%, 0.05%, 0.1%
เหมาะกับสิวประเภทใด |
|
กลไกการทำงาน |
เร่งการสร้างและผลัดเซลล์ผิวทำให้สิวหลุดลอก มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ |
วิธีใช้ |
ทาหลังล้างหน้าในช่วงก่อนนอน โดยใช้ปริมาณเท่าเม็ดถั่วเขียว เว้นบริเวณผิวบอบบาง รอบดวงตา รอบปากและร่องจมูก |
ผลข้างเคียง |
ผิวแห้ง แดง ลอก ระคายเคืองง่าย ไวต่อแสงแดดและมักทำให้สิวเห่อได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกที่ใช้ |
คำแนะนำ |
ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ ห้ามใช้ในหญิงที่มีภาวะตั้งครรภ์ และควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดควบคู่เป็นประจำ |
3. กรด Azelaic acid
กรดที่สกัดได้จากพวกธัญพืช เช่น ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ช่วยฆ่าเชื้อสิวที่เป็นต้นเหตุของการอักเสบ
เหมาะกับสิวประเภทใด |
สิวอุดตันและสิวอักเสบ ที่มีระดับความรุนแรงน้อย - ปานกลาง |
กลไกการทำงาน |
ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ P.acnes และละลายสิวอุดตัน |
วิธีใช้ |
ทาหลังล้างหน้า ในช่วงแรกให้ทาวันละครั้งก่อนนอน หลังจากอาการระคายเคืองลดลงจึงค่อยเพิ่มการดูแลเป็นเช้าเย็น |
ผลข้างเคียง |
ผิวระคายเคือง แห้ง แดง ลอก อาจไวต่อแสงเล็กน้อยและ 1-4 สัปดาห์แรกจะรู้สึกแสบร้อน ตึงบริเวณผิวที่ทา |
คำแนะนำ |
ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และควรใช้มอยเจอร์ไรเซอร์และครีมกันแดดควบคู่เป็นประจำ |
4. กรดไฮดรอกซี (Hydroxy Acid)
กรดไฮดรอกซีแบ่งออกได้หลายประเภทตามคุณสมบัติและที่มา แต่ส่วนใหญ่แล้วที่นิยมนำมาใช้ในสกินแคร์ดูแลสิวที่มีความรุนแรงระดับปานกลางถึงเล็กน้อย โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- กรดอัลฟาไฮดรอกซี (Alpha Hydroxy Acids) หรือ AHA : เป็นกรดที่ได้จากสารสกัดของผลไม้ เช่น Glycolic Acid
เหมาะกับสิวประเภทใด |
สิวอุดตันที่มีระดับความรุนแรงน้อย - ปานกลาง |
กลไกการทำงาน |
มีฤทธิ์ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่คล้ำเสีย ช่วยละลายสิวอุดตันและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ |
วิธีใช้ |
ใช้ทาหลังการล้างหน้าก่อนนอนเป็นประจำ |
ผลข้างเคียง |
อาจแสบยุบยิบเล็กน้อยในบริเวณที่ทาสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย |
คำแนะนำ |
ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ และใช้ครีมกันแดดควบคู่เป็นประจำ |
- กรดเบต้าไฮดรอกซี (Beta hydroxy acid) หรือ BHA : เป็นกรดที่ได้จากการสังเคราะห์ หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ กรดซาลิไซลิก (Salicylic Acid) ช่วยผลัดผิวแบบอ่อนๆเพื่อลดสิวอุดตัน และลดการอักเสบของสิว
เหมาะกับสิวประเภทใด |
สิวอุดตันและสิวอักเสบ ที่มีระดับความรุนแรงน้อย - ปานกลาง |
กลไกการทำงาน |
ช่วยผลัดเซลล์ผิว ละลายน้ำมัน (Sebum)ได้ดี จึงช่วยให้รูขุมขนสะอาดออกฤทธิ์กับสภาพผิวมันหรือผิวเป็นสิวได้เป็นอย่างดี |
วิธีใช้ |
ใช้ทาบริเวณที่เป็นสิวหลังการล้างหน้าเป็นประจำ |
ผลข้างเคียง |
อาจแสบยุบยิบเล็กน้อยในบริเวณที่ทาสำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย |
คำแนะนำ |
ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำ ไม่ควรใช้ร่วมกับเรตินอลและควรใช้ครีมกันแดดควบคู่เป็นประจำเพื่อประสิทธิภาพที่ดี |
แต่หากมีระดับปานกลางถึงเล็กน้อยก็อาจแนะนำให้ใช้เป็นสกินแคร์ที่มีสารสำคัญเป็นอักทางเลือกหนึ่งในการดูแลสิวได้เช่นกัน อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากยาแต้มสิวด้วย
2 ครีมแต้มสิวที่แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง
Eucerin Pro ACNE SOLUTION SOS SERUM
ผลิตภัณฑ์เซรั่มสำหรับคนเป็นสิวในระดับน้อยถึงปานกลาง Eucerin Pro ACNE SOLUTION SOS SERUM เซรั่มสำหรับคนเป็นสิว ที่ช่วยลดการอักเสบ ระคายเคืองสิวด้วย Licochalcone A และ Panthenol ช่วยปลอบประโลม และเสริมปราการผิว พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินด้วย 2X Carnitine ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิวด้วย Decanediol พร้อมดูแลปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวได้ถึงต้นตอด้วย AHA/BHA/PHA จบปัญหาสิวซ้ำซากใน 7 วัน และลดการอักเสบของสิวใน 8 ชม.
Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID
ครีมทาสิว Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID ผลิตภัณฑ์ดูแลสิวสูตรกลางวัน สำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวเล็กน้อย มีรอยสิวและหน้ามัน มีสารสำคัญในการดูแลสิว Salicylic acid หรือ BHA คอยช่วยจัดการหัวสิว และมาพร้อมนวัตกรรม A.I จากสารสกัดธรรมชาติ ลิโคชาลโคนช่วยดูแลปัญหาเรื่องรอยดำรอยแดงจากสิว พร้อมฟื้นบำรุงผิวและปลอบประโลมผิวแห้งลอก ควบคุมความมันได้ 8 ชม. ให้ผิวไม่ไวต่อการอุดตันซ้ำ
ยาแต้มสิว หรือ ครีมแต้มสิว การใช้เพื่อรักษาสิว ต้องอาศัยความต่อเนื่องและสม่ำเสมอในการดูแลรักษาตามระยะเวลาที่แนะนำ โดยส่วนใหญ่การรักษาจะเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ระหว่าง 4-8 สัปดาห์ หลังจากเริ่มการรักษา และในบางรายอาจใช้เวลาถึง 3 เดือนขึ้นไปถึงเริ่มเห็นผล ดังนั้นการรักษาสิวต้องอาศัยความใจเย็นและเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยต้องประเมินความรุนแรงของสิวเพื่อเลือกวิธีการดูแลที่เหมาะสม หมั่นทายาแต้มสิวเป็นประจำ หลีกเลี่ยงสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดสิว ปฎิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแลอย่างเคร่งครัด
"การรักษาสิว ไม่ว่าจะรักษาโดยแพทย์หรือไม่ ก็จำเป็นต้องใช้เวลานานถึงจะเห็นผล อย่าท้อในการรักษา " Dr med. Markus Reinholz แพทย์ผิวหนัง |