ลดรอยแดงจากสิว – วิธีการดูแลรักษา และการเลือกครีมลดรอยแดง

อ่านแล้ว 1 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม
วิธีลดรอยแดง,รอยแดงจากสิว,รอยสิว

รอยดำและรอยแดงบนใบหน้ามักเกิดจากสิว แม้สิวจะหายแล้วแต่ผิวที่เคยเป็นสิวอาจจะทิ้งร่องรอย หรือที่เรียกว่า รอยแดง หลงเหลือเอาไว้เป็นจุดสีแดงสีดำให้เห็นอย่างชัดเจน แต่โชคดีที่ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ลดรอยแดง ที่เป็นตัวช่วยสำหรับการรักษารอยแดงให้จางลงและเลือนหายต่างๆ มากมาย เพราะว่า รอยดำ หรือ รอยแดง จากสิวเหล่านี้ก็เป็นสาเหตุให้คนเคยเป็นสิวต้องปวดใจและขาดความมั่นใจเป็นอย่างมาก ดั้งนั้นการดูแลรอยสิวให้ถูกวิธีเราต้องรู้ประเภทของรอยสิว และสาเหตุที่เกิดขึ้นและวิธีรักษาที่ถูกต้องเพื่อรักษารอยสิวได้อย่างถูกวิธี

ประเภทของรอยสิว

รอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิว ประเภทนี้เกิดจากการอักเสบของผิวหนังหรือมีการอุดตันในรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวอักเสบ และตอนที่ผิวหนังทำการรักษาฟื้นฟูรอยแผลอักเสบจากสิวทำให้หลอดเลือดภายใต้ผิวหนังเกิดการขยายตัว จึงอาจจะทำให้เกิดเป็นรอยแดงจากสิวอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง

 

รอยดำจากสิว

มีลักษณะเป็นรอยดำหลังจากสิวหาย เกิดจากการที่เมลาโนไซต์หรือเซลล์ที่ผลิตเม็ดสีเมลานิน ถูกกระตุ้นจากการอักเสบของสิวหรือการระคายเคืองจากการที่เราะแคะ แกะ เกาสิว จนทำให้เกิดการผลิตเมลานินออกมามาก จนเกิดเป็น รอยดำหรือรอยสีเข้มที่ชั้นผิวหนัง

 

หลุมสิว

หลุมสิว ปกติจะเกิดจากสิวอักเสบที่ค่อนข้างรุนแรง เพราะเกิดการอักเสบที่ผิวหนังชั้นล่างลึกลงไปมากกว่าชั้นผิวหนังปกติที่เกิดสิว ทำให้กระบวนการรักษาของร่างกาย ที่พยายามสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ทำได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเป็นรอยดำรอยแดงที่เป็นหลุมสิวขึ้นมา



สาเหตุของ รอยแดง เกิดจากอะไร ?

รอยแดง รอยดำต่างๆบนใบหน้า เกิดจากการอักเสบของผิวหนังเมื่อเป็นสิว ทำให้เซลล์เนื้อเยื่อถูกทำลาย และเส้นเลือดฝอยบนผิวหนังแตกออก ยิ่งถ้าเป็นสิวอุดตันแล้วถูกบีบก็จะยิ่งอักเสบและเห็นรอยแดงชัดขึ้น ในท้ายที่สุดก็จะทิ้งเป็นรอยดำหรือรอยแดงเอาไว้ กลายเป็นรอยแผลเป็นจากสิว ถึงแม้ว่าเราจะรักษาสิวหายแล้วก็ตาม

วิธีรักษารอยสิว

8 วิธีรักษารอยแดงจากสิว บนใบหน้าและการดูแลผิวเพื่อ ลดรอยแดงให้จางลง

ทางเลือกในการรักษาเพื่อจะ ลดรอยแดง และลบรอยแดงนั้นมีหลายวิธี บางวิธีสามารถลดรอยดำจากสิวให้จางหายได้แบบถาวรซึ่ง วิธีการลดรอยแดง นั้นมีตั้งแต่การรักษาที่ซับซ้อนที่ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือวิธีการดูแลลดรอยแดงได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ครีมบำรุงในการรักษาหรือการใช้ ครีมลดรอยแดง ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งผลลัพธ์และระยะเวลาที่ใช้ในการลดรอยแดงแต่ละวิธีก็มีความแตกต่างกัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและความเข้มของรอยแดงในแต่ละบุคคลด้วย ซึ่งการดูแลรักษารอยแดงจากสิวบนใบหน้าจะมีวิธีการอย่างไรบ้าง ต้องลองดูกับ 8 วิธีนี้

 

1. การรักษาและลดรอยแดงด้วยแสงและการใช้เลเซอร์ลดรอยสิว

การรักษารอยแดง หรือ ลดรอยแดง ด้วยการใช้เลเซอร์ เป็นวิธีการรักษา รอยแดงและรอยดำจากสิวบนใบหน้าที่ต้องอยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญและมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเลเซอร์นั้นจะใช้แสงที่มีความแรงและช่วงคลื่นที่ต่างกัน อาศัยหลักการความร้อนและการทำลายกลุ่มเม็ดสี (ทางการแพทย์เรียกว่า photothermolysis) ตรงเข้าจับทำลายเม็ดสีที่จับกลุ่มเป็นรอยแดงให้จางลง แม้ว่าการ รักษารอยแดงด้วยเลเซอร์ จะให้ผลลัพธ์เร็ว แต่ก็อาจเกิดผลข้างเคียงซึ่งนำไปสู่การอักเสบและรอยแดงรอยดำเพิ่มขึ้นได้

 

2. เมโสหน้าใส (Mesotheraphy)

เมโสหน้าใส (Mesotheraphy) เป็นกระบวนการที่ใช้สารสกัดจากพืชและวิตามินต่างๆ เข้าสู่ผิวหนังผ่านทางการฉีดเข้าไปในชั้นผิวหนังช่วยในการปกป้องผิวหนังจากการเสียดสีของแสงแดด และช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังดูกระจ่างใสยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลการฉีดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีดและสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคล ดังนั้นควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้าก่อนที่จะตัดสินใจฉีดเมโสหน้าใสหรือวิตามินผิว

 

3. การกรอผิว (Dermabrasion)

การกรอผิว (Dermabrasion) เป็นเทคนิคการรักษาผิวหน้าที่ใช้เครื่องมือกรอเซลล์ผิวหนังที่เสียไปออกเพื่อลดรอยแดงรอยดำที่เกิดจากสิวหรืออาการเกี่ยวกับผิวหน้าอื่นๆ วิธีนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่ผิวหน้าที่ถูกขัดออกไป ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูสม่ำเสมอ ลดรอยแดงรอยดำ และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพื่อกระชับผิวหน้าด้วย

ครีมลดสิว

4. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ตั้งแต่แรกเริ่มเป็นสิว

การใช้ผลิตภัณฑ์ หรือครีมบำรุงผิวเพื่อช่วยดูแลผิวที่เป็นสิว คือหนึ่งในหนทางที่เราสามารถดูแล ปัญหารอยแดง ได้ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสิวและเป็น วิธีลดรอยแดง ที่ป้องกันการเกิดรอยแดง ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย โดยควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมการช่วยดูแล สำหรับคนที่มีปัญหาเรื่อง รอยแดง ได้โดยเฉพาะ Eucerin Pro ACNE SOLUTION SOS SERUM เซรั่มสำหรับคนเป็นสิว ที่ช่วยลดการอักเสบ ระคายเคืองสิวด้วย Licochalcone A และ Panthenol ช่วยปลอบประโลม และเสริมปราการผิว พร้อมควบคุมความมันส่วนเกินด้วย 2X Carnitine ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของสิวด้วย Decanediol พร้อมดูแลปัญหารอยดำรอยแดงจากสิวได้ถึงต้นตอด้วย AHA/BHA/PHA จบปัญหาสิวซ้ำซากใน 7 วัน และลดการอักเสบของสิวใน 8 ชม.

ครีมลดรอยสิว,รอยแด,รอยดำ
ครีมลดรอยแดง Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID

5. ครีมลดรอยแดง ดูแลผิวอย่างต่อเนื่องหลังจากสิวหาย เพื่อลดรอยแดงที่เกิดขึ้น

นอกจากการดูแลผิวตั้งแต่แรกเริ่มเป็นสิวแล้ว แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถลดเลือนปัญหารอยแดง ดูแลผิวอย่างต่อเนื่องในการจัดการกับปัญหาเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยในผลิตภัณฑ์ ครีมลดรอยแดง Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID มีคุณสมบัติในการช่วยฟื้นบำรุงผิวตั้งแต่ระยะเป็นสิวจนถึงสิวหาย ด้วยนวัตกรรม A.I ที่เป็นสารสกัดจากธรรมชาติ 'ลิโคชาลโคน' ที่สามารถช่วยดูแล ลดรอยแดง และลดเลือนรอยแดงจากสิว พร้อมปลอบประโลมผิวที่อ่อนแอจากการอักเสบ โดยทำงานร่วมกับ กรดซาลิไซลิค (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์เพื่อลดสิวและช่วยให้รอยแดงจางลงได้ด้วย


ครีมลดรอยแดงเฉพาะจุด
ครีมลดรอยแดงเฉพาะจุด Pro ACNE SOLUTION CORRECT & COVER STICK

6. ครีมลดรอยแดงเฉพาะจุด 

นอกจากครีมลดรอยแดง ยังมีอีกหนึ่งวิธีลดรอยแดง และลดรอยดําจากสิวบนใบหน้าแบบเร่งด่วน โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาเรื่องรอยแดงเฉพาะจุด ปกปิด หรือปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียน สามารถใช้ Pro ACNE SOLUTION CORRECT & COVER STICK ครีมลดรอยแดงเฉพาะจุดที่ช่วยปกปิด ลบรอยแดงจากสิวให้ดูจางลงได้ ที่ผสานประสิทธิภาพจากสารบิสซาโบลอลเข้มข้น 5 เท่า จะช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ระคายเคืองจากสิว ดูแลให้สิวยุบตัวลง โดยไม่ทำให้เกิดความมันส่วนเกิน ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน ทำให้บริเวณที่แต้มไม่เกิดการเยิ้ม หลุดลอกและปกปิดรอยแดงอย่างเป็นธรรมชาติ


ครีมกันแดดลดรอยแดง
ครีมกันแดดลดรอยแดง SUN DRY TOUCH OIL CONTROL FACE SPF50+ PA+++

7. ลดรอยแดง โดยการปกป้องผิวจากแสงแดด

เพราะแสงแดดเป็นหนึ่งในตัวการกระตุ้นเม็ดสีผิวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ รอยดำและรอยแดงจากสิวเข้มขึ้น และแก้ได้ยากมากขึ้น การป้องกันผิวจากแสงแดดจึงเป็นการลดรอยแดงที่หายได้ยากเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น ควรปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดด เป็นประจำเพื่อช่วยในการป้องกันรอยแดง ไม่ให้เข้มขึ้น แต่สำหรับคนเป็นสิวการเลือกครีมกันแดด ควรต้องเลือกที่เหมาะกับผิวเป็นสิวโดยเฉพาะ เพราะนอกจากการปกป้องแล้ว ต้องมีส่วนช่วยควบคุมความมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิวได้ด้วย SUN DRY TOUCH OIL CONTROL FACE SPF50+ PA+++ ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดด สำหรับผู้มีปัญหาผิวมันและเป็นสิวง่าย ช่วยปกป้องผิวจากรังสีในแสงแดดและช่วยควบคุมความมันได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง เนื้อดรายทัชบางเบา ไม่อุดตันผิวและไม่ก่อให้เกิดสิว


เซรั่มลดรอยแดง
เซรั่มลดรอยแดง Pro ACNE SOLUTION TRIPLE EFFECT SERUM

8. เซรั่มลดรอยแดงที่ผลิตสำหรับผิวที่เป็นสิวง่าย เพื่อลดการเกิดรอยแดงซ้ำ

รอยแดง เกิดจากการอักเสบของสิวอุดตันจนเกิดเป็นรอยแดง และเมื่อสิวหายแล้วก็อาจเป็นรอยดำได้ ดังนั้นการรักษารอยแดงที่ดีที่สุดควรรักษาที่ต้นตอและป้องกันเกิดสิวซ้ำ เซรั่มลดรอยแดง Eucerin Pro ACNE SOLUTION TRIPLE EFFECT SERUM เซรั่มที่ช่วยลดสิว ลดรอยสิว และคุมมัน สูตรเข้มข้นเนื้อบางเบา ด้วยสารสำคัญอย่าง ไทอามิดอล THIAMIDOL™ สารไบรท์เทนนิ่งประสิทธิภาพดีที่สุดจาก ยูเซอริน ที่ช่วยตัดตอนรอยดำลึกถึงจุดกำเนิด ด้วยกลไกที่สำคัญที่สุด สำหรับลดเลือนจุดด่างดำต่างๆ ให้ดูลดเลือนได้มากถึง 75% และช่วยจบปัญหารอยดำและจุดด่างดำทุกประเภท ปรับให้ผิวดูกระจ่างใสใน 2 สัปดาห์ พร้อมลดโอกาสเกิดรอยสิวซ้ำ และยังมีสาร Salicylic Acid สารสกัดธรรมชาติที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวOKอย่างอ่อนโยน ลดรอยดำจากสิวที่ฝังลึก พร้อมปรับสีผิวหมองคล้ำด้วยลิโคชาลโคน เอ และเทคโนโลยี Sebum Regulating ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าอีกด้วย

วิธีการป้องกันไม่ให้เกิดรอยแดงจากสิว

  • หลีกเลี่ยงการกดสิว บีบสิว เพราะการบีบหรือกดสิวจะทำให้ผิวหนังอักเสบมากขึ้นและอาจทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ และรอยหลุมสิวได้
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า การสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียแพร่กระจายและทำให้สิวอักเสบมากขึ้น
  • ทาครีมป้องกันแสงแดด แสงแดดเป็นปัจจัยที่ทำให้รอยแดงจากสิวยิ่งเข้มขึ้น ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปทุกครั้งที่ออกจากบ้าน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนที่เพียงพอช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมเซลล์ผิวได้ดีขึ้น
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วนช่วยบำรุงผิวจากภายใน
  • ลดความเครียด ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้สิวและรอยแดงกำเริบได้ง่ายขึ้น ควรหาเวลาผ่อนคลายและทำกิจกรรมที่ชอบให้คลายเครียด

 

รอยแดงจากสิวอาจรักษาได้หากเรารู้วิธีการดูแลที่ถูกต้อง เพราะนอกจาก 8 วิธีการดูแล ลดรอยสิว รอยดำ รอยแดงจากสิว ควรหลีกเลี่ยงการบีบสิว แคะ แกะ หรือเกาด้วยตัวเอง เพราะอาจยิ่งสร้างความเสียหายให้เซลล์ผิวและก่อให้เกิดหลุมสิวลึกได้ ดังนั้นการรักษารอยแดง ลดรอยแดง ควรดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ หรือตั้งแต่เริ่มเป็นสิวและต้องดูแลให้ถูกวิธี ด้วยการใช้ ครีมลดรอยแดง เพราะนอกจากช่วยลดโอกาสการเกิดรอยสิวที่รุนแรงให้น้อยลงแล้ว ยังทำให้การดูแลรักษาลดรอยแดงจางลงได้ง่ายและเร็วมากขึ้นอีกด้วย

คำถามที่พบได้บ่อย เกี่ยวกับรอยแดงจากสิว

รอยแดงจากสิวสามารถหายเองได้ไหม?

รอยแดงจากสิวอาจจะหายเองได้หากเป็นรอยแดงที่เล็กน้อยและไม่ลึกเกินไปในผิวหนัง โดยจะใช้เวลาตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์หรือเป็นเดือน แต่ในบางกรณีก็อาจจะใช้เวลานานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความเสียหายของผิวหนัง และการฟื้นฟูสภาพผิวหนัง การใช้วิธีรักษาที่เหมาะสมจะช่วยให้รอยแดงหายได้เร็วขึ้น ดังนั้น หากมีปัญหาเรื่องรอยแดงจากสิวที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

 

รอยแดงกับรอยดํา ต่างกันยังไง?

รอยแดงและรอยดําเป็นสิวที่ต่างกัน โดยรอยแดงจะเกิดจากการอักเสบของสิวซึ่งจะทำให้เลือดหลั่งไหลไปอยู่ในเนื้อเยื่อผิวหนัง และส่งผลให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือด ส่วนรอยดําจะเกิดจากการระเบิดของสิวที่เกิดอยู่ภายในผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลายและส่งผลให้เกิดการเกิดภาวะความเป็นเซลล์ผิวหนังที่ไม่สมบูรณ์และเลือดไม่หลั่งไหลออกมาเท่ากับรอยแดง

 

แยกความแตกต่างของรอยแดงและผื่นแดงยังไง?

รอยแดงจากสิวและผื่นแดงเกิดจากสาเหตุต่างกัน โดยรอยแดงจากสิวเกิดจากการอักเสบของผิวหนังที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่สิวเริ่มหายไปแล้ว ส่วนผื่นแดงจะเกิดจากการอักเสบของผิวหนังที่มาจากสาเหตุเช่น แพ้แสงแดด โรคผิวหนัง เชื้อแบคทีเรีย หรือการใช้เครื่องสำอางที่ไม่เหมาะสม รอยแดงจากสิวและผื่นแดงจะมีลักษณะเด่นคือผิวหนังจะแดง แต่รอยแดงจากสิวจะเกิดบริเวณที่เป็นจุดสิวเดิม และมีรูปทรงเป็นหลุมๆ ส่วนผื่นแดงจะกระจายตัวไปทั่วผิวหนังในบางครั้งอาจมีสะเก็ดเล็กๆ หรือจุดบวมประเภทต่างๆ ตามด้วย

 

วิธีรักษารอยแดงจากสิว วิธีไหนดีที่สุด

รอยแดงจากสิวมีวิธีการรักษาที่ต่างกันขึ้นอยู่กับระดับความรุ่นแรงของรอยแดง อาจต้องพบผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหน้า เพื่อตรวจวินิจฉัยและแนะนำการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

บทความเกี่ยวข้อง

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง