ผิวบาง เป็นอีกปัญหาสำหรับผู้หญิงทุกคนที่อยากมีผิวหน้ากระจ่างใส แต่ลืมคิดไปว่าผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งที่ใช้อยู่ ทำให้ผิวกระจ่างใสจริงและปลอดภัยหรือไม่ คุณหรือเพื่อนๆ ข้างกายหลายคน คงเคยพบ ปัญหาการใช้ไวเทนนิ่งแล้วผิวขาวขึ้นอย่างทันใจ ใครหลายๆ คน ก็ทักว่าคุณมีหน้าขาวใส ขึ้นในช่วงแรก แต่ไม่นานก็ผิวบางผิวกลับคล้ำเสีย กว่าเดิมซ้ำยังเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำอีกด้วย
ผิวบาง คืออะไร?
ผิวบาง เป็นผิวที่ไวต่อแสง หรือสารเคมีต่างๆ ซึ่งจะมีลักษณะแห้งตึง ขาดความชุ่มชื้น หรือทำให้ผิวเป็นผื่นแพ้ง่าย ผิวอักเสบ บวม คัน หรือแห้งลอกได้ง่าย และอาจจะเห็นเส้นเลือดกฝอยบนผิวหน้าอีกด้วย ถ้าหากเราปล่อยไว้ จะทำให้ก่อเกิดปัญหาอื่นๆ อย่างรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ ฝ้ากระบนใบหน้าได้
สาเหตุที่ทำผิวบาง
1. การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเป็นกรด
การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมาะสมและไม่ปลอดภัยเพราะมีสารที่เป็นอันตรายต่อผิว เนื่องจากมีส่วนผสมของสารที่มีความเป็นกรดมากเกินไปเช่น กรด BHA (Beta Hydroxyl Acid) กรดวิตามินซี กรดวิตามินเอ สารเหล่านี้ช่วยให้หน้าขาวขึ้น จริงในตอนแรก แต่สุดท้ายกลับทำให้ ผิวบาง และก่อปัญหาทิ้งไว้อีกด้วยเพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้าไปเร่งการผลัดเซลล์ผิว ทำให้การผลัดเซลล์ผิว บริเวณหนัง กำพร้าหลุดลอกเร็วและมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ผิวบางลงทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ง่าย และนำไปสู่ปัญหาผิวไวต่อแสงแดด ซึ่งเมื่อออกแดดจะทำให้เกิด อาการ แดง แสบ คันหรือมีผื่นโดยเฉพาะบริเวณ โหนกแก้ม และเมื่อผิวบางและไวต่อแดดปัญหาที่่จะพบต่อมาคือ ฝ้า กระ จุดด่างดำคล้ำเสียสะสมมากยิ่งขึ้น
2. การทำทรีตเมนต์หน้าติดต่อกันเป็นประจำ
การทำทรีตเมนต์หรือการทำเลเซอร์เป็นประจำ จะทำให้ผิวหน้าบางลง เพราะการเลเซอร์จะเข้าไปลอกเซลล์ของชั้นผิวให้บางลงชั่วคราว เมื่อทำแล้วควรเลี่ยงไม่ให้ผิวบริเวณที่ทำเลเซอร์โดนแสงแดด และควรเว้นระยะห่างในการทำเลเซอร์อย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
3. อายุที่เพิ่มมากขึ้น
เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของสภาพผิวก็เปลี่ยนไปด้วยทั้งระดับโฮอร์โมนในร่างกาย ที่จะกระทบต่อการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินน้อยลง ทำให้ผิวที่เคยเต่งตึงจึงเริ่มหย่อนยาน มีริ้วรอย ผิวขาดความชุ่มชื้น และทำให้ผิวบางลงอีกด้วย
4. การใช้เครื่องสำอาง
การเลือกใช้เครื่องสำอางให้เหมาะกับผิวหน้า เราควรเลือกเครื่องสำอางที่น่าเชื่อถือ เพราะบางยี่ห้อที่เราใช้อาจมีสารเคมีบางชนิดที่เป็นอันตราย หรือมีค่าปริมาณความเข้มข้นสูง เกินมาตรฐานทางการแพทย์ เช่น สารฟอกขาว สารปรอท ไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) กรดไตรคลออะซีติค (Trichloroacetic หรือ TCA) สารเหล่านี้อาจมีส่วนทำให้ผิวบางได้
5. การโดนรังสี UV จากแสงแดด
แสงแดงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เราผิวบางได้ เพราะเกิดจากรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Radiation) หรือรังสียูวี (UV) จะเข้าไปทำลายอีลาสติน (Elastin) ที่เป็นโปรตีนชนิดโครงสร้างสำคัญในผิวหนัง ที่เป็นตัวช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ตึงกระชับ แต่เมื่ออีลาสตินถูกทำลาย ก็จะส่งผลกระทบให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและบางลงได้
การป้องกันปัญหาผิวบาง
ทุกๆ ครั้งของการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่ง คุณควรแน่ใจว่าไม่มีส่วนผสม ของสารที่ทำให้ ผิวบาง เช่น กรดวิตามินซี กรดวิตามินเอ กรด BHA (Beta Hydroxyl Acid) เพราะสารเหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวได้ง่าย เร่งการผลัดเซลล์ผิวบริเวณหนังกำพร้ามากกว่าปกติ ทำให้เกราะปกป้องผิวอ่อนแอผิว จึงบางลง ถ้าเริ่มมีจุดด่างดำ กระ ฝ้าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ กลุ่มไวเทนนนิ่ง ที่ปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองที่ผิวได้ง่ายสาร ทำให้ผิวบาง และไม่เร่งการผลัดเซลล์ผิวมากกว่าปกติ ไม่เช่นนั้นปัญหาจุดด่างดำผิวคล้ำเสียสะสมจะรุนแรงขึ้นและคล้ำเสียกว่าเดิม
คุณควรแน่ใจว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ไวเทนนิ่งที่คุณใช้ ผ่านการทดสอบทางคลินิก โดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจากสถาบันการวิจัยที่น่าเชื่อถือและทดสอบแล้วว่า ได้ผลจริงเหมาะสมกับสภาพผิว นอกจากนี้ต้องตรวจสอบแล้วว่า ส่วนผสมเป็น สารที่ปลอดภัยไร้สารทำให้ผิวบาง ซึ่งสารที่ปลอดภัย ได้แก่
- สารสกัดจากธรรมชาติที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวและสามารถทำงานร่วมกับผิวได้ดี ทั้งนี้ ต้องได้รับการพิสูจน์และทดสอบแล้วว่าปลอดภัย ไม่ระคายเคืองต่อผิวและ ไร้สารทำให้ผิวบาง
- สารที่ได้รับการยอมรับหรือใช้รักษาผิวพรรณโดยแพทย์ผิวหนัง
- สารที่ทำงานร่วมกับผิวเสมือนเป็นแหล่งอาหารหรือพลังงานให้ผิวทำงานตาม กระบวน การธรรมชาติได้อย่างดีมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Licochachone /Panthenol (vitamin B5)/ Vitamin E Acetate / Ubiquinone /Octadecenedioic Acid เป็นต้น
โดยพิสูจน์แล้วว่า ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ จึงให้ประสิทธิภาพในการบำรุงและเติมสารอาหารผิว มีประสิทธิภาพยาวนานและปลอดภัย ไม่ทำให้ผิวบาง