การผลัดเซลล์ผิว AHA BHA

การผลัดเซลล์ผิวหน้า คืออะไร?

อ่านแล้ว 2 นาที
แสดงบทความเพิ่มเติม

การผลัดเซลล์ผิวหน้าจริงๆแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกายเรา เพราะการทำงานของเซลล์ผิวหนัง จะมีการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้เซลล์ผิวใหม่ได้ขึ้นมาแทนอยู่แล้ว โดยเป็นการผลัดเซลล์ผิวชั้นบนสุดหรือชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ออกไปจากชั้นผิวหนังในรูปแบบขี้ไคล เพื่อเปิดโอกาสให้เซลล์ผิวหนังใหม่ขึ้นมาทดแทน ปกติแล้วการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วจะมีรอบการผลัดอยู่ที่ประมาณ 28 วัน เพียงแต่ว่าเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ผลัดเซลล์ผิวและการสร้างผิวใหม่ทดแทนก็จะใช้เวลานานขึ้นตามอายุเช่นกัน และการใช้ตัวช่วยเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ก็ควรทำอย่างถูกต้อง เพื่อที่จะได้ไม่ทำร้ายผิวหนังของเราจนเกิดรอยแผลหรือระคายเคือง


การผลัดเซลล์ผิว มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ?

ข้อดีของการผลัดเซล์ผิว

  1. เซลล์ใหม่ที่กระจ่างใสขึ้นมาทดแทนได้
  2. ผิวหน้าสะอาดขึ้นจากการขจัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไป
  3. ลดการอุดตันของรูขุมขนที่เกิดจากเซลล์ผิวเก่าผสมกับน้ำมันบนใบหน้า
  4. ผิวสามารถซึมซับสกินแคร์บำรุงผิวต่างๆได้ดีขึ้น

 

ถ้าเราผลัดเซลล์ผิวช้ามีข้อเสียอย่างไร

  1. ความหมองคล้ำของใบหน้า
  2. เกิดการสะสมของมลภาวะบนเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
  3. อาจเกิดการอุดตันของรูขุมขน
  4. หน้าแห้งหยาบกร้านจากการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว
  5. ครีมบำรุงผิวที่ใช้ไม่สามารถทะลุชั้นเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้

วิธีการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเอง

เมื่อเราอายุมากขึ้น การสร้างเซลล์ผิวใหม่ทดแทนก็ใช้เวลานานขึ้น ทำให้ผิวหนังชั้นนอกของเราเกิดการสะสมของเซลล์เก่าที่ตายแล้วและเป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าของเราดูหมองคล้ำไม่กระจ่างใส และดูผิวแห้งหยาบกร้าน และอาจทำให้เกิดการอุดตันของผิวที่เป็นสาเหตุของสิวด้วยเช่นกัน ในบางครั้งเราเลยต้องช่วยให้ผิวเราผลัดเซลล์เก่าทิ้งไปบ้าง

  • การขัดผิว

เป็นวิธีผลัดเซลล์ผิวง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง เพราะเพียงแค่ขัดหรือถูโดยใช้สครับขัดหน้า หรือใช้หินขัดและใยขัดสำหรับผิวกายก็ได้ หรือจะใช้เป็นสครับผิวจากธรรมชาติ เช่น เกลือ น้ำตาล เบคกิ้งโซดาก็ได้ เพียงแต่วิธีการขัดผิวนี้ก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะจะทำให้ผิวหนังของเราบางลง และทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย หรือถ้าขัดแรงหรือนานเกินไปก็ทำให้เกิดบาดแผลบนผิวหนังได้เช่นกัน


สครับหน้า

  • การใช้สารเร่งผลัดเซลล์ผิว

หลายคนที่มีปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำหรือเป็นสิวคงเคยได้ยินคำว่าสารเร่งผลัดเซลล์ผิว เพื่อช่วยเร่งผลัดผิวเก่าออกไปและเผยผิวใหม่ขึ้นมาแทน และคงสงสัยกันว่าแท้จริงแล้วสารเร่งผลัดเซลล์ผิวทำงานอย่างไร และมีความปลอดภัยมากน้อยเพียงใด

สารเร่งผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวนั้นทำงานโดยการเร่งให้เซลล์ผิวชั้นหนังกำพร้าหลุดลอกออกไปเร็วกว่าปกติ จึงเผยให้เห็นผิวใหม่ที่ใสกว่าเร็วยิ่งขึ้นนั่นเอง สารเร่งผลัดเซลล์ผิวที่นิยมใช้กับผู้มีปัญหาสิวมีอยู่ด้วยกันหลายตัว เช่นกลุ่ม BHA (Beta hydroxyl acid) และ AHA(Alpha hydroxyl acid) สารที่มีฤทธิ์เร่งผลัดเซลล์ผิว (Keratolytic) เช่น AHA และ BHA จะช่วยให้รอยสิว จุดด่างดำต่างๆดูจางลง กระชับรูขุมขน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์สลายสิวอุดตัน (Comedolytic) ด้วย อย่างไรก็ตามสารในแต่ละกลุ่มมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ฤทธิ์ในการสลายสิวอุดตันที่แตกต่างกัน รวมถึงความรุนแรงในการผลัดเซลล์ผิวก็มีระดับที่ต่างกันออกไป ในการใช้ต้องคำนึงถึงสภาพผิวของแต่ละบุคคลและฤทธิ์ของสารแต่ละตัว เพราะในการเร่งการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวที่รุนแรงอาจก่อให้เกิดผิวระคายเคืองง่าย และเกิดเป็นปัญหาสิวรุนแรงขึ้นในระยะยาวได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาสิวอุดตันและผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย จึงต้องเลือกสารที่ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน (Low Keratolytic Effect) แต่มีประสิทธิภาพในการลดสิวอุดตันสูง (High Comedolytic Effect)


สาร AHA และ BHA แตกต่างกันอย่างไร

สารที่มีงานวิจัยรองรับถึงประสิทธิภาพในการลดสิวอุดตัน ได้แก่ สาร Salicylic Acid (BHA), Glycolic Acid (AHA) และสาร Lactic Acid (AHA) โดยจากงานวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิภาพในการลดสิวอุดตันของ Salicylic Acid, Glycolic Acid และ Lactic Acid พบว่า สาร Lactic Acid (AHA) มีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่อ่อนโยนกว่า Glycolic Acid (AHA) อย่างมีนัยสำคัญ และที่สำคัญคือไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ทั้งนี้เนื่องจากสาร Lactic Acid เป็นสารให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ (Natural moisturizer factor:Natural Acid)ที่มีอยู่ในผิวหนังของคนเราอยู่แล้ว จึงช่วยให้กระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวเกิดขึ้นอย่างอ่อนโยนตามธรรมชาติ ไม่ทำให้ผิวบาง เหมาะสำหรับผิวผิวแห้งและคนที่มีแพ้ง่ายแม้ใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

สาร Salicylic Acid (BHA) จะมีประสิทธิภาพในการผลัดเซลล์ผิวเหมือนกับ AHA แต่ว่าด้วยคุณสมบัติที่ละลายในน้ำมันได้ จึงสามารถเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนได้ล้ำลึกกว่า BHA จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวธรรมดา-ผิวมัน รูขุมขนกว้างมากกว่า

 

ข้อดีของ AHA (Alpha hydroxyl acid)

AHA จะมีโมเลกุลที่เล็กและซึมลงผิวได้ดีกว่า นอกจากช่วยเรื่องผลัดเซลล์ผิว ยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังอีกด้วย หากใช้ในความเข้มข้นที่พอดี ใช้แล้วช่วยเรื่องการผลัดเซลล์ผิว ลดเลือนรอยสิว จุดด่างดำและสิวอุดตันได้ ตอนใช้ควรระวังเรื่องความเข้มข้น ซึ่งควรใช้ความเข้มข้นไม่เกิน 10% เท่านั้นเพราะอาจเปลี่ยนเป็นทำร้ายผิวของเราแทนได้ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้จะดีที่สุด

 

ข้อดีของ BHA (Beta hydroxyl acid)

BHA เป็นสารใช้ความเข้มข้นน้อยกว่า AHA และสามารถละลายได้ดีในน้ำมัน และมีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ที่ตายแล้วเร็วขึ้น ช่วยปรับรูขุมขนให้เล็กลง ลดการอุดตัน แต่อาจมีอาการระคายเคืองจากการใช้งานได้ ความเข้มข้นที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 1-2% เท่านั้น และหากใช้แล้วเกิดการระคายเคือง ผิวแห้งหลุดลอก ควรปรึกษาแพทย์ทันทีหรือก่อนใช้งาน


วิธีผลัดเซลล์ผิวสำหรับสภาพผิวแต่ละชนิด

ผิวธรรมดา

สามารถใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวอย่าง AHA BHA ได้ หรือจะใช้สครับด้วยก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรใช้ทั้งสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวแล้วตามด้วยการใช้สครับพร้อมกัน

 

ผิวแห้ง

ควรใช้เฉพาะสารเร่งการผลัดเซลล์ผิว AHA เท่านั้น เพราะจะทำงานได้ดีที่สุด และช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆได้ดีขึ้น และห้ามใช้สครับเด็ดขาด เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองหรือบาดแผลได้

 

ผิวบอบบางแพ้ง่าย

สามารถใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิว BHA ที่มีความเข้มข้นน้อยลงและอ่อนโยนต่อผิว เพราะว่าผิวหน้าบอบบางและแพ้ง่าย อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเป็นผื่น หรือเกิดอาการแพ้ได้ง่าย และหลีกเลี่ยงการใช้สครับจะดีที่สุด

 

ผิวมัน

ใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ทั้ง AHA และ BHA และใช้สครับได้ด้วยเช่นกัน แต่แนะนำให้ใช้ BHA เพราะว่าสามารถละลายได้ดีในน้ำมันและช่วยปรับรูขุมขนให้เล็กลง ควบคุมความมันได้ดีขึ้น และไม่ควรใช้สารเร่งการผลัดเซลล์ผิวร่วมกับสครับพร้อมกัน

ข้อเสียของการผลัดเซลล์ผิวบ่อยครั้งเกินไป

  1. เกิดการระคายเคืองและเป็นรอยแดง
  2. ผิวแห้งมากขึ้น หรือเกิดอาการลอกเพราะสูญเสียความชุ่มชื้น
  3. ผิวมันมากขึ้น เพราะผิวที่แห้งจากการผลัดเซลล์บ่อยครั้ง จนผิวผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป
  4. เกิดสิวแพ้ เพราะผิวหนังที่ถูกผลัดออกบ่อยครั้งจนผิวด้านในไม่มีผิวชั้นนอกปกป้อง

เพราะฉะนั้นควรเลือกวิธีการผลัดเซลล์ผิวที่เหมาะกับผิวของคุณ


ควรผลัดเซลล์ผิวบ่อยครั้งแค่ไหน

ถ้าหากใช้วิธีขัดหรือสครับผิวหน้าเพื่อผลัดเซลล์ผิว ไม่ควรทำเกินสัปดาห์ละ 2 ครั้งเพราะว่าเซลล์ผิวหนังเราก็ต้องการเวลาในการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเช่นกัน และระมัดระวังในการผลัดเซลล์ผิวด้วยตัวเองทุกครั้ง และหากมีอาการผิดปกติควรหยุดใช้และปรึกษาแพทย์ทันที


สครับหน้า สำหรับคนเป็นสิว

ผลิตภัณฑ์ Pro ACNE SOLUTION SCRUB สครับผิวหน้าจากยูเซอริน ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยนด้วยเม็ดบีดกลมแบบละเอียดที่ไม่ขูดลอกทำร้ายผิว พร้อมด้วย Lactic Acid (AHA) ช่วยสลายสิวอุดตันและไม่ระคายเคืองผิว สามารถใช้ได้แม้คนผิวบอบบาง แพ้ง่าย

สำหรับวิธีผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วย ผลิตภัณฑ์ที่มีสารที่มีฤทธิ์เร่งผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA สามารถใช้ได้ทุกวัน โดยไม่เป็นการทำให้ผิวบางลง และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวเราด้วยเช่นกัน


ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีสาร BHA, AHA สำหรับแต่ละสภาพผิว

การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสาร BHA หรือ AHA เราควรเลือกให้เหมาะกับผิวเราที่สุด เพราะเมื่อผิวหน้าเราสูญเสียชั้นผิวหนังชั้นบนที่คอยปกป้องผิวเอาไว้ อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายขึ้นและอาจจะเป็นต้นเหตุของการเกิดสิวหรือผด ผื่น รวมไปถึงการสูญเสียความชุ่มชื้นของชั้นผิว ทำให้เซลล์ผิวด้านล่างเกิดการหดตัวซึ่งจะเป็นต้นตอของการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้ด้วย


BHA หน้า สำหรับคนเป็นสิว ไม่แพ้

สำหรับคนที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย เป็นสิว หรือหน้ามัน แนะนำให้ใช้ Eucerin Pro ACNE SOLUTION A.I. MATT FLUID ที่เป็นมอยส์เจอไรเซอร์เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดสิวอุดตัน คุมมัน และสามารถลดรอยสิวได้อีกด้วย ใช้นวัตกรรม A.I. Innovation จากสารสกัดธรรมชาติ ลิโคชาลโคนในการลดรอยดำรอยแดง พร้อมฟื้นบำรุงเซลล์ผิวจากภายใน และ Salicylic acid (BHA) จัดการหัวสิว ลดสิวอุดตันได้ลึกถึงชั้นผิว อีกทั้งยังคุมความมันได้ 8 ชม. และลดการสะสมของแบคทีเรียก่อสิว P.Acnes ได้ถึงร่องรูขุมขน ให้ผิวไม่ไวต่อการอุดตันซ้ำด้วย เรียกได้ว่าเป็นการบำรุงผิวและปกป้องผิวไปในตัว


BHA ลดรอยสิว

สำหรับคนที่ต้องการลดรอยสิว ให้หน้ากระจ่างใสก็สามารถใช้ Pro ACNE SOLUTION ANTI-ACNE MARK ที่มีสาร Thiamidol สารทรงพลังที่ได้รับการจดสิทธิบัตร เอกสิทธิ์เฉพาะของยูเซอริน สำหรับช่วยลดรอยดำสิวฝังลึกพร้อมลดโอกาสเกิดรอยสิวซ้ำ และ Salicylic acid (BHA) ที่มีความสามารถในการละลายในน้ำมัน และมีความสามารถเป็นตัวช่วยในการผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพอย่างอ่อนโยนนอกจากนี้มีฤทธิ์ Comedolytic สลายสิ่งอุดตันในร่องรูขุมขน ดังนั้นจึงสามารถลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุหนึ่งในการเกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบ

เซรั่ม AHA

สำหรับคนผิวธรรมดา ผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย แต่ไม่มีปัญหาสิว และมีความกังวลเรื่องริ้วรอยแรกเริ่ม สามารถใช้ Eucerin HYALURON-FILLER ADVANCED AOX ESSENCE ที่เป็นเซรั่มเอสเซ้นบำรุงผิว ที่มีคุณสมบัติในการกระชับรูขุมขน ผสานด้วยไฮยาลูรอนิค แอซิดที่จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยแรกเริ่มและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ยังมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆด้วย ผลิตภัณฑ์นี้มีส่วนผสมของ AHA ซึ่งอาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นควรใช้คู่กับเครื่องสำอางที่ผสมสารป้องกันแสงแดด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงเป็นเวลานาน หรือใช้เฉพาะช่วงเวลากลางคืน